ทาวน์เฮาส์ : รีวิว Walk in Closet ห้องแต่งตัวในฝัน ราคาเบา เบา

มาดูรีวิว ของห้องตู้เสื้อผ้า หรือห้องแต่งตัวในฝัน กับ ราคาเบา เบา





ทาวน์เฮาส์ ถ้าหากจะให้พูดถึงห้องแต่งตัวแล้วสำหรับความฝันอย่างหนึ่งของสาวๆ ที่รักการแต่งตัวก็น่าจะเป็นการมีห้องเก็บเสื้อผ้าด้วย และในห้องแต่งตัวไว้ในบ้าน ที่คิดอยากจะซื้อชุดโปรดมาเพิ่มกี่ชุดต่อกี่ชุดก็มีที่เก็บ เพราะว่าวันนี้ Sanook!Home เชื่อว่าสาวๆทุกคน ต้องมีความสุขกับการได้อยู่ในห้องแต่งตัวของตนเองแน่เลย จึงได้นำไอเดียของคุณ Sanfran Housewife ห้องชายคา เว็บไซต์พันทิป ดอทคอม ที่เนรมิตห้องเก็บเสื้อผ้าและห้องแต่งตัวของเธอให้เป็นดั่งสวรรค์สำหรับสาวนักช้อป ทั้งพร้อมแล้วเราก็ตามไปเปิดห้องแต่งตัวของเธอกันเลยดีกว่าค่ะ ก็เผื่อใครจะได้นำไปใช้ประโยชน์


ต้องเชื่อว่าสาว ๆ หลายคน คงจะมีความฝันที่อยากจะมี walk-in closet เป็นของตัวเองแน่นอน ก็เหมือนกันกับเราค่ะ หลังจากที่โอนบ้านเรียบร้อยแล้ว เราก็มาถึงขั้นตอนการตกแต่งบ้านซึ่งเราเริ่มด้วยการตกแต่งห้องนอนก่อนเลย เพราะว่าถ้าหากเงินหมด ก็จะได้มีห้องนอนก่อน อิอิ ห้องนอนเดิมเป็นห้องขนาดประมาณ 3 x 6 เมตร โดยพื้นเป็นกระเบื้อง โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบพื้นกระเบื้องด้วย เพราะว่าเวลาเดินจะเย็นจึงตัดสินใจที่จะปูพื้นใหม่ ซึ่งด้วยไม้ลามิเนทอีกประเด็นคือขนาดของห้องของ ประมาณ 18 ตรม กลัวแอร์จะไม่ค่อยเย็น หรือ เพราะจะซื้อแอร์ 12000 BTU แล้วเราก็อยากได้ Walk-in closet อยู่แล้วครับ เลยกั้นห้องเพื่อทำเป็นห้องแต่งตัวในฝัน หึหึ ก็เริ่มจากการกั้นห้องก่อน ด้วยขนาดพื้นที่ ๆ มีจำกัดด้วย ก็จึงได้พื้นที่ของ walk-in closet ประมาณ 1.8 x 3 เมตรนั้นเอง และวัสดุทำด้วยโครงเหล็ก และแผ่นยิปซั่มตามภาพเลยนะค่ะ













ทาวน์โฮม แล้วกั้นห้อง เราก็หาช่างเอง คิดเหมาค่าของ รวมค่าแรง แต่ก็ว่าไม่รวมประตู เราต้องซื้อประตูพร้อมอุปกรณ์รางสไลด์เอง ใกล้เบ็ดเสร็จ ราคาก็เกือบเท่าค่าจ้างกั้นผนัง 55

มาดูรูปเต็ม กันนะค่ะ













สำหรับตรงประตูเป็นประตูไม้ แล้วก็ต้องซื้อสีสำหรับทาไม้ด้วยนะ ส่วนค่าแรงทาสีฟรี ขอให้พี่ช่างที่จะกั้นประตูเค้าทำให้เลย





ซึ่งก็หลังจากได้ทำการกั้นห้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็มาถึงการติดตั้งอุปกรณ์ด้วย เพื่อที่จะทำ Walk-in closet ในฝันให้เป็นจริงกัน

ซึ่งก็เป็นอันได้ข้อสรุปว่าจะใช้ของ Home Pro เพราะว่าราคา และก็มีบริการติดตั้งนั้น ซึ่งเราเองไม่มีฝีมือเลยด้วย ได้เริ่มจากทางฝ่ายติดตั้งสำรวจอุปกรณ์ ดูแบบของเราไปให้ Home Pro ออกแบบให้ และได้เริ่มลงมือ ก็อยากบอกว่าประทับใจตรงที่พี่ช่างเค้ามีอุปกรณ์ในการรองฝุ่นด้วย ซึ่งตอนที่เจาะสว่านเข้าไปในผนังมันช่วยได้เยอะเลยตอนทำความสะอาด และฝุ่นน้อยลงมากเลย จริง ๆ อุปกรณ์พวกนี้หากใครมีความสามารถ และสำหรับอุปกรณ์พวกสว่าน ก็สามารถติดตั้งเองได้ แต่สำหรับเราคิดว่าคงไม่ไหว เพราะว่าต้องกะระยะ เล็งเหลี่ยม บลา ๆ มากมายค่ะ













ซึ่งตอนแรกคิดว่าไม่นานก็น่าจะเสร็จ ได้ปรากฎ แล้วเริ่มทำตอนเวลา 10.00 และก็กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไป เกือบจะบ่าย 3 ถือว่าเป็นงานฝีมืออย่างหนึ่งที่เดียวค่ะ




ก็มาดูภาพตอนเสร็จแล้วกันเลยค่ะ













ก็เสร็จแล้วก็ชื่นใจค่ะ Walk-in closet ในฝัน ราคาเบา เบส






บ้านทาวเฮาส์ ก็มาต่อกันที่การปูพื้นลามิเนทเลยค่ะ สิ่งสำคัญของการปูพื้นไม้ลามิเนท ก็คือเรื่องขนาดของพื้นที่ค่ะ เพราะแค่เศษเสี้ยวของ 1 ตรม.หากคำนวณผิด อาจจะทำให้คุณต้องซื้อพื้นไม้อีกทั้งกล่องเลยก็ได้

แล้วถึงแม้ว่าราคาที่จะซื้อขายกันจะเป็นราคาต่อตารางเมตรแต่ว่าพื้นไม้ลามิเนทเองจะแพคมาเป็นกล่อง กล่องหนึ่งไปนั้นก็จะสามารถใช้ได้ประมาณ 2 ตรม หน่อย ครับ




ซึ่่งตรงนี้บอกเลยค่ะว่าเราพลาดเรื่องการคำนวณพื้นที่ ห้องเราขนาด 3 x 6 = 18 ตรม แต่ว่ามันจะมีช่องเว้านิดหน่อย ตรงเสา และสำหรับประตูเข้าห้องซึ่งตอนแรกคิดว่าเผื่อไว้ซัก 20 ตรม ก็น่าจะพอ แต่ปรากฎว่า ไม่พอค่ะ เศร้าเลย ต้องจ่ายเงินเพิ่มค่าไม้พื้น แต่ค่าอุปกรณ์ไม่ต้องด้วย


ในตรงนี้เราก็ซื้อที่ Home Pro เช่นเดียวกัน ก็เพราะว่าซื้อ 20 ตารางเมตรขึ้นไป บริการติดตั้งฟรี ก็พร้อมอุปกรณ์ เช่น ขอบบัว ตัวจบงาน อุปกรณ์ก็สำคัญนะคะ เพราะว่าถ้าหากเกิดซื้อไม้พื้นแล้วต้องซื้ออุปกรณ์อีก ก็ต้องเพิ่มอีกหลายพันเลยนะค่ะ




ใหเไปดูรูปขั้นตอนการปูพื้นกัน

1.ให้ทำความสะอาดพื้น

2.ให้รื้อขอบบัว อันนี้จะไม่รื้อก็ได้ถ้าขอบบัวเดิมสีไม่ตัดกับพื้น หรือไม่ก็ ช่างทำให้ แต่คิดค่าใช้จ่ายตามระยะของขอบบัว เป็นเมตรเลย

3.ให้รองพื้นด้วยแผ่นพลาสติก แล้วช่างบอกว่าจะช่วยเรื่องความชื้น

4.ให้เริ่มปูพื้นลามิเนท เทคนิคคือการเรียงไม้ ให้เป็นขั้นบันได แล้วมันจะทำให้ไม้ติดกันแน่น ไม่หลุด

ซึ่งรุ่นที่เราเลือก ก้ไม่ต้องใช้กาวด้วยนะ และเป็นเหมือนตัวล็อคที่นำมาต่อ ๆ กันได้เลยค่ะ













และสำหรับอันนี้ก็ใช้เวลาและฝีมือค่ะ เพราะว่าต้องมีการตัดไม้พื้น ก็ให้เข้าเหลี่ยมเข้ามุม ซึ่งให้พอดีกับพื้นที่ของห้อง ตรงนี้ต้องดูช่างดี ๆ ด้วยค่ะ เพราะถ้าหากช่างที่ไม่ชำนาญ ประสบการณ์น้อย จะตัดไม้เราแบบเปลือง ๆ แล้วทำให้เราเสียไม้ไปเปล่า ๆ เบ็ดเสร็จ เราเองก็ต้องจ่ายค่าไม้เพิ่ม อีกประมาณ 2 ตารางเมตร ในส่วนอุปกรณ์ไม่ต้องเพิ่ม เสียค่ารื้อบัวนิดหน่อย ที่สำคัญเลยค่ะ และค่าตัดประตูห้องให้สั้นลง เนื่องจากการปูพื้นทำให้พื้นห้องสูงขึ้นด้วย ประตูก็จะปิดไม่ได้ตามระเบียบ เฮ้อออ ยิบย่อยค่ะ แต่ก็นะ ก็ถือว่าเป็นค่าแรงของช่างเขา แต่ว่าเสร็จแล้วก็ชื่นใจ หายเหนื่อย หายเซ็ง ได้พื้นห้องสวยอย่างที่ตั้งใจไว้ อารมณ์ของห้องดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะค่ะ





แล้วจากเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ