highlight

6/recent/ticker-posts

Ad Code

Responsive Advertisement

บ้านเดี่ยว แสนอบอุ่นของ “เถ้าแก่น้อย” มหาเศรษฐีสาหร่ายทอด


บ้านเดี่ยวที่แสนอบอุ่นเจ้าของ เถ้าแก่น้อย มหาเศรษฐีสาหร่ายทอดกรอบ
















บ้านเดี่ยวหลังมหึมาที่ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านย่านราชพฤกษ์ นอกจากจะเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวคุณต๊อบ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ใช่ไหมว่า เถ้าแก่น้อย แล้ว ที่นี่ยังเป็นเรือนรักระหว่างเขากับน้องมิ้นท์ ประภัสสร วิริยะกิจนุกูล ภรรยาสาวสวย ที่ครั้งนี้ยินดีเปิดบ้าน กับอนุญาตให้ Sanook!Home เข้าไปเยี่ยมชม


บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่น้องมิ้นท์เคลื่อนเข้ามาอยู่กับคุณต๊อบได้กะการ 1 ปีกว่าๆ แล้ว เพราะว่าเธอเล่าว่า พี่ต๊อบพร้อมทั้งครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ตั้งแต่บุกเบิกแรก พอมิ้นท์แต่งงานกับพี่ต๊อบจึงขนโยกย้ายเข้ามาอยู่ แต่ตอนพี่ต๊อบจักซื้อบ้านหลังนี้ เราก็มาดูด้วยกัน พร้อมกับระหว่างเป็นแฟนกันมิ้นท์ก็มาเที่ยวที่บ้านพี่ต๊อบบ่อยๆ





























ก็เพราะว่าว่าโดยปกติคนทั่วไปนิยมเโจษกระฉ่อนกซื้อบ้านพักอาศัยกันอยู่ในตำแหน่งท้ายๆ ของโครงการ เหตุเพราะว่าต้องการพื้นที่ด้วยกันความเป็นส่วนตัว แต่บ้านหลังนี้กลับตั้งอยู่หลังแรกนั่นเป็นก็เพราะว่าเจ้าของบ้านตั้งใจเเล่าระบือกซื้อบ้านตัวอย่าง ที่ตกแต่งทุกอย่างไว้พร้อมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์












บ้านหลังนี้เป็นบ้านแบบอย่าง ที่ ตกแต่งบ้านเดี่ยว ทุกส่วนของบ้านไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ ของตกแต่งชิ้นใหญ่ๆ ไปจนถึงของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทางโครงการเขาก็แถมให้หมด ไม่ต้องซื้ออะไรใหม่เลย เราไม่ต้องตกแต่งเอง

























ลักษณะของบ้านเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ที่ได้เสริมแต่งพื้นที่รอบๆ ด้วยสวนไม้ใบเขียวร่มรื่น ซึ่งเป็นฝีมือการออกแบบพร้อมกับดูแลรักษาเพราะว่าคุณพ่อของคุณต๊อบ นอกบ้านมีสระว่ายน้ำ พร้อมกับในรั้วเดียวกันของบ้านคุณต๊อบยังเป็นบ้านของพี่สาวคุณต๊อบที่สร้างเพิ่มขึ้นมาในภายหลัง







































คราวเปิดประตูบ้านเข้าไปก็เจาะเจอกับโถงโล่งๆ ที่ด้านขวามือถูกแบ่งพื้นที่เป็นห้องรับแขก ที่มีโต๊ะทำงานเล็กๆ ตั้งอยู่ในห้องเดียวกัน เดิมทีห้องนี้ไม่มีกระจกกั้น เป็นแบบเปิดโล่ง แต่ทั้งนี้เพราะมักจักมีเพื่อนๆ ของพี่ต๊อบ พร้อมด้วยเพื่อนๆ ของมิ้นท์แวะเวียนมาหาบ่อยๆ ทำให้ต้องออกแบบพร้อมกับกั้นห้อง เพื่อความเป็นส่วนตัว พร้อมกับกันเสียงเวลาพูดคุยกันดังๆ ออกไปรบกวนคนด้านนอก สาเหตุที่เป็นกระจกใสก็ก็เพราะว่าว่าไม่ต้องการให้ห้องดูทึบจนเกินไป และยังสมรรถมองเห็นคนภายนอกสร้างตัดผ่านกระจกได้ด้วย


ซึ่งภายในห้องเดียวกันนี้ยังได้แบ่งช่วงโซนหนึ่งเป็นที่นั่งทำงาน เพราะทุกๆ เช้าจักมีการมานั่งเซ็นเอกสารกันที่ห้องๆ นี้


จนกระทั่งได้เดินเข้าทะลวงโถงต้อนรับด้านหน้าเข้าไปแล้วครับ จักไปถึงในส่วนของ Dining ใช่ไหมพื้นที่เหตุด้วยรับประทานอาหาร ที่เป็นโต๊ะไม้ตัวยาวใหญ่ มีเก้าอี้ไม้เข้าชุดตั้งเรียงรายอยู่บนโต๊ะเป็นจำนวนมาก เนื่องแต่บ้านหลังนี้เป็นที่พักอาศัยของสมาชิกจำนวนมาก


บ้านส่วนหลังนี้ก็มีคุณพ่อ คุณแม่ของพี่ต๊อบด้วย พี่ต๊อบ มิ้นท์ พี่ชายพี่ต๊อบ พี่สาวพี่ต๊อบ ลูกๆ หลานๆ รวมกันอยู่หลายคน โต๊ะรับประทานอาหารจึงค่อนข้างใหญ่ แต่ส่วนหนึ่งก็เอาไว้วางของใช้ต่างๆ ด้วย จากส่วนนั่งรับประทานอาหาร ทางด้านซ้ายเป็นห้องครัว






















ถ้าสมมติเดินย่ำเลยไปจากโต๊ะรับประทานอาหารจักเป็นห้องสำหรับเลี้ยงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณต๊อบกับน้องมิ้นท์คือน้องโทบิ (พุฒิสิทธิ์ พีระเดชาพันธุ์) ลูกชายวัย 10 เดือน เป็นห้องกระจกขนาดใหญ่ ที่จัดสรรพื้นที่ไว้เพราะว่าว่าเด็กๆ คนอื่นภายในครอบครัว


เกี่ยวกับห้องของน้องโทบิตรงนั้นต่อเติมขึ้นมาใหม่ ซึ่งภายในอีกทั้งมีห้องนอนด้วยว่าแขกด้วย









































จากพื้นที่ในซีกด้านล่างขึ้นสู่เนื้อที่ชั้น 2 สิ่งตัวบ้าน ตรงบริเวณโถงบันได ถูกยกเป็นชั้นลอยเล็กๆ ไว้เป็นจุดพัก บนเพดานบริเวณโถงบันไดตกแต่งด้วยแชนเดอเลีย ทันทีที่ขึ้นไปที่ชั้น 2 ของบ้าน ด้านบนจักเป็นแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอนใหญ่ ซึ่งเป็นห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่คุณต๊อบ ห้องพระ ห้องพี่ชายคุณต๊อบ ห้องนอนคุณต๊อบกับน้องมิ้นท์ และห้องเสื้อผ้าของคุณมิ้นท์


























ห้องเสื้อผ้าก็เป็นพื้นที่เดียวที่มิ้นท์ได้ทำขึ้นมาใหม่ ด้วยเหตุที่เสื้อผ้า ของใช้ของมิ้นท์มีบานเบอะ จึงขอพี่ต๊อบเปลี่ยนห้องนอนแขกเดิมเป็นห้องเสื้อผ้า เอาไว้เก็บเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า รองเท้า ทุกสิ่งทุกอย่างของมิ้นท์จักอยู่ในห้องๆ นี้ แต่พี่ต๊อบก็ขอให้มีชั้นเหตุด้วยวางหนังสือกับหนังที่เขาชอบไว้ด้วย


ห้องเสื้อผ้าของน้องมิ้นท์นั้นถูกออกแบบภายในห้องเป็นสีขาว มีกระจกประดับแบบบิวท์อิน ล้อมรอบด้วยตู้เสื้อผ้า กับตู้เครื่องประดับ เพราะว่าว่าห้องเสื้อผ้านี้จักมีพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน เพราะว่าผนังระหว่างห้องเสื้อผ้ากับห้องนอนนั้นถูกเพ้นท์ด้วยสีอะคริลิก ทำให้บรรยากาศของบริเวณนั้นสดใสมากยิ่งขึ้น






















งานเพ้นท์ผนังนี้ เปิดผนังจากพี่สาวของพี่ต๊อบเขาเพ้นท์ผนังที่บ้านของเขา เห็นแล้วเราก็รู้สึกว่าเอามาเพ้นท์ที่ห้องตัวเองบ้างก็คงจะดี แต่เพราะว่าพื้นที่ตรงนี้มันแคบ เลยได้แค่นี้ ใช้รูปต้นไม้เพราะมันทำให้บ้านดูสดชื่นขึ้น ไม่เลี่ยนเกินไป ก็ก็เพราะว่าว่าวอลเปเปอร์ของมิ้นท์ก็เป็นลายสีชมพูอยู่แล้ว เห็นใจพี่ต๊อบเค้า























บ้านของน้องมิ้นท์กับคุณต๊อบนั้นเป็นที่พักที่แสนอบอุ่นเหลือกระฉ่อนเกิน เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่คณะงานของเราอยู่ภายในบ้านหลังนี้ จักมีผู้คนแวะเวียนเข้าออกตลอดเวลา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นญาติ กับคนที่รู้จักกันแวะมาเยี่ยม ทักทาย ไปมาหาสู่กันตลอดเวลา นั่นแสดงให้เห็นว่า บรรยากาศความอบอุ่น กับความรักใคร่ ผูกพันของคนในบ้านนั้นสำคัญเหนือกว่าขนาดของบ้าน



















เพราะว่ามิ้นท์แล้วสมมุติคิดว่าที่พักคือ ที่ทิ้งตัว เราก็สารารถจักทิ้งตัวในบ้านของเราได้จากทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งปัญหา ความทุกข์ ปางกลับมาที่บ้านเดี่ยวใหม่ บ้านคือที่ที่เราจะทำอะไรก็ได้ เราจักได้พักผ่อนด้วยกันเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดภายในบ้านของเรา


ใครอาจจะนึกว่าบ้านของเศรษฐีระดับถึงพันล้านอย่าง เถ้าแก่น้อย นั้นจักต้องใหญ่โตเป็นคฤหาสน์ แต่คราวเข้ามาสัมผัสอย่างแท้สุทธิ สิ่งหนึ่งที่เด่นชัดมากนั่นคือ ความใหญ่โตของความรักระหว่างคนภายในครอบครัว ซึ่งนี่แหละที่ทำให้ Sanook! Home เชื่อว่า น่าจักเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีเถ้าแก่น้อยอย่างเช่นทุกวันนี้

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

Ad Code

Responsive Advertisement