ทุกอย่างเริ่มทำด้วยผมกับแฟน เราวางแผนที่จะแต่งงานกันในปี 56 ที่ตัดผ่านมาครับ แต่ด้วยภารกิจหลายๆ อย่างที่ทั้งผมกับแฟนมีกันบานตะเกียงมากๆๆ ไม่มีเวลาในการสร้างเองแน่นอน ดังนั้น เราก็ตระเวณหา บ้านหลายๆ โครงการตั้งแต่ปลายปี 54 แต่ดูแล้วดูอีก ก็ยังไม่อาจจักหาได้ เพราะราคาสูงเกินไป (ค่า 3 ล้านปลายๆ ถืง 5 ล้าน) พอคิดต่อเดือนแล้ว ต้องผ่อนถึงเดือนละ 2-3 หมื่นบาท
ปาดเหงื่อเลยทีเดียวฮะ เราจะสร้างภาระให้ตัวเองไปหรือไม่เปล่าเนี่ย ต้องจัดงานแต่ง แล้วก็ต้องสร้างบ้านไปด้วย เงินๆๆๆๆๆ ทั้งนั้น
ตอนนั้นผมมีคอนโดทิ้งไว้ 1 ห้อง แฟนมีคอนโดอีก 1 ห้อง บ้านเก่าพ่อ-แม่อีกฝั่งละ 1 หลัง สรุปกันก่อนสร้างบ้านเรามีบ้านรวมกัน 4 ที่!!! ซึ่งพอมาคิดๆ ดูคราวนี้ ไม่รู้จะไปหาซื้อเพิ่มอีกทำไมฮะ แต่อารมณ์แบบว่าเราอยากมีบ้านเป็นของเราเองนักๆ ได้แต่งเอง อยู่เอง (บ้านพ่อแม่เก่าแล้ว ตะโกรงสร้างใหม่ฮะ) กับเผื่ออนาคตเนื่องด้วยเราเผื่อมีตัวเล็กด้วย
ดูบ้าน ดูไป ดูมา หลายๆ ที่ก็ยังไม่มีวี่แววถูกใจเลยครับ วันหนึ่งก็เหโจษบไปเห็นที่บ้านพ่อแม่แฟน ... เป็นที่ทำสวนเล็กๆ ของแม่แฟน อยู่ในรั้วเดียวกับบ้าน มีที่เหระบืออยู่แฮะ
เป็นจุดใต้ตำตอแท้ๆ ครับ ก็เพราะว่าว่าที่บ้านทาวน์เฮ้าส์พ่อตาท่านมีที่เหเลื่องลืออยู่ประมาณ 50 ตร.ว.!!! บ้านจัดสรรยังหายากเลยครับ ที่ 50 ตร.ว. เนี่ย แล้วนี่อยู่บ้านแฟนแท้ๆ ทำไมไม่มองงงงงง
ผมก็ไปเลียบๆ เคียงๆ ถาม (แท้จริงๆ คือขอนั่นแหละ... แหม่!!!) ว่าจักขอปลูกบ้านได้หรือว่าไม่
ท่านตอบตกลงทันที เพราะว่าว่าได้สร้างในบริเวณบ้านของท่าน ลูกหลานไม่ไปไหน ท่านก็ย่อมยกให้อยู่แล้ว เพราะด้วยผมกับแฟนก็จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านไปด้วย win-win ฮะงานนี้ พ่อตาลูกเขย อิอิ
หลังจากนั้นผมก็เลยได้ตกลงกันจะขายคอนโดของตัวเองไปเพื่อเอามาทำทุนสร้าง ฮ่าๆ
ริเริ่มทำรังวัดประมาณการกลางเดือน ต.ค. ครับ คนของ Compact มาวัดครับ
ภารกิจต่อมาก็ไปหาบริษัทรับสร้างบ้าน ด้วยกันกู้แบงค์ตามปกติไป รายละเอียดมันมาก ผมขอนำเสนอเป็นแนวคิดแทนนะครับ
0 ก่อนสร้าง ขอให้กำหนดจุดยืนของตัวเองนะครับ ว่าต้องการบ้านแบบไหน เรามีงบประมาณการเท่าไหร่ เขียนออกมาให้หมด วางแผนๆๆ เพื่อที่จะได้รู้ว่าอะไรที่เราจักถอยได้-ไม่ได้ ยืดหยุ่นได้ จากนั้นก็ลุยครับ
1 ด้วยภาระหน้าที่ ด้วยกันการแต่งงานที่กำลังจักเกิดขึ้น เวลาผมกับแฟนไม่มีแน่นอน เราทั้งคู่จักยุ่งกันมาก ดังนั้น เราจึงเร่ำลือกที่จะสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือเท่านั้น บริษัทประหลาดๆ ตัดทิ้งครับ เราจ้างให้เค้ามา ‘ช่วยสร้าง’ ไม่ใช่มา ‘สร้างปัญหา’ ให้เรา เลยไม่กล้าเสี่ยงครับ (แต่ขนาดเตรียมพร้อมมาขนาดนี้ ยังปวดหัวจุกๆ จิกๆ เลยครับ)
2 การสร้างกับบริษัท เค้าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เราหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องการยื่นแบบก่อสร้าง การขออนุญาติก่อสร้าง ขอประปา ไฟฟ้า ฯลฯ เราก็เบาแรงขึ้นในการทำอย่างอื่นครับ
3 เวลามีปัญหาอะไรกัน เรามีคนที่ตามเรื่องได้ เม้นได้ถูกคนครับ ฮ่าๆๆ ไล่ตั้งแต่ ผู้รับเหมา ซุปเปอร์ไวเซอร์ ยันผู้จัดการบริษัทครับ ตัดปัญหาเรื่องผู้รับเหมาทิ้งงานแล้วตามใครมาสร้างต่อไม่ได้เลยครับ
4 สบายใจในเรื่องกำหนดเวลาการก่อสร้างที่เสร็จตามกำหนดแน่นอน
5 ข้อเสียคือ ถ้าแบบที่เราเลือกระฉ่อนกไม่ฟิตกับที่ดิน เราก็จะไม่มีสิทธิ์เเอิกเกริกกแบบนั้นๆ เพราะบริษัทเค้าเป็นแบบสำเร็จรูป ถ้าจะแก้ก็ต้องเสียตังค์เพิ่ม ไม่ใช่หรือต้องเโจษกแบบอื่น ของเรามีที่ 50 ตารางวา แบบนี้จึงยิ่งน้อยไปอีก
6 การสร้างบ้านเป็นเรื่องใหญ่ เรา ’ต้องเล่น’ เป็นกลุ่มกับแฟนครับ ฮ่าๆ ยกอำนาจให้เธอ (ท่วมท้นๆ) อย่าหืออือ อิอิ ...นอกเรื่องแระ แน่นอนๆ ความหมายคือ ใครถนัดอะไรให้ทำอันนั้นครับ แบ่งแยกงานให้ชัดเจน แฟนผมเจ้ารายละเอียดพร้อมกับวางแผนเก่ง ก็ให้เค้าจัดการเรื่องนี้ไป ส่วนผม ผช. ก็ดูเรื่องทางเทคนิค งานช่าง คุยกับช่าง คุยกับผู้รับเหมา ตรวจงานครับ
7 ขอให้เรานั้นตั้งเป้าหมายไว้ก่อนว่าเราตกแต่งบ้านในแบบไหนคร่าวๆ จักได้กำหนดวัสดุที่จักมาแต่งบ้านได้ เดินบานตะไทๆ เก็บรายละเอียด ช่วงนั้นไปเดินแยะมากครับ ทั้งงานแฟร์ งานบ้าน ikea concept SB index homepro homework CDC บุญถาวร สาขาไหนใหญ่ๆ ไปมาหมดแล้วครับ ข้อดีของการเดินก่ายกองๆ คือ จะรู้มากขึ้นครับ ว่าแบบไหนดี แบบไหนแพง มีอะไรสวยๆ ใหม่ๆ บ้างครับ จักได้เอามาสร้างบ้านได้ถูก
8 ของผมกับแฟน ไม่มีอะไรมาก เน้นประหยัดกับสวย ฮ่าๆๆ ปรัชญาจิงๆ สรุปคือ ประหยัดแต่ไม่งกนะครับ จ่ายในสิ่งที่ต้องจ่าย ของแพงแต่ถ้ามีเหตุผล เราก็จักจ่ายครับ (ให้ย้อนไปดูข้อ 6-7 ครับ) ส่วนใหญ่ก็จักเเลื่องกวัสดุในค่าตามแบบที่เค้าให้มา เปลี่ยนแค่สุขภัณฑ์ห้องน้ำชั้น 2 ที่เเล่าลือกใช้ของ nahm ชั้นล่างปู กระเบื้องแกรนิตโต้ ก๊อกน้ำก็ของ VRH ดีๆ เลยครับ เฟอร์นิเจอร์ ส่วนใหญ่เป็น SB กับ Concept, ม่านของ pasaya อะไรราวๆนี้ครับ
9 งานแฟร์มีประโยชน์ ของ Sales จังหวะดีๆ เราก็จักประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลยครับ ผมกับแฟนจักชอบมากครับ กับไม่รู้เป็นอะไร ตาของเรามักจะไปชอบถูกใจตัวสวยๆ แต่...เป็นแค่ตัวโชว์ทุกที เฮ่อ!
11 สุดท้ายขอให้ทุกๆท่าน วางแผน ๆๆๆพร้อมทั้งวางแผนครับ การ plan คือกุญแจสำคัญของทุกเรื่องนะครับ การวางแผนเป็นเหมือนเข็มทิศนำทาง พร้อมกับจะเป็นตัวช่วยให้เราทะลวงเรื่องราวปวดหัวไปได้ครับ
12 แนะนำว่าเวลาคุยกับช่างสร้างบ้าน ให้เราเขียนเป็นแผนภาพแล้วเขียนกำกับไว้ด้วยนะครับว่าต้องการให้ช่างเค้าทำอะไร แก้อะไร จักช่วยให้คุยกันรู้เรื่องมากขึ้น เวลาตามงาน จะได้สะดวกทั้งเราและช่างครับ
แต่พอถึงเวลาได้คน มาทีเอามากองเพียบเลยครับ ถัดก็เป็นงานหลังคากับก่ออิฐครับ
สร้างบ้านหรือทาวน์โฮมกับบริษัท ก็อาตมีคนมาคอยตรวจให้แบบนี้นะครับ แต่ก็อย่าวางใจครับ อย่างน้อย เราต้องเดินไปดูงานด้วยครับ ว่าเรียบร้อยจริงหรือว่าเปล่า
เดือน ธ.ค. ต่อ ม.ค. รวมเกือบ 3 อาทิตย์ ก็ทำหลังคากับก่ออิฐเสร็จครับ
จากนั้นประมาณภายใน 2 เดือนครับ กว่างานฉาบของโครงสร้าง งานไฟฟ้า ประปาจึงเรียบร้อย ระหว่างนี้ เราก็ไปชอปปิ้ง อุปกรณ์ไฟฟ้า โคมไฟ จุ๊กจิ๊กๆ มาเก็บไว้รอได้แล้วครับ
คาดคะเนเดือน เม.ย.56 งานสีภายนอกกับงานภายในก็เรียบร้อยครับ
จากนั้นก็เว้นไปอีกครับ เพราะว่ายุ่งกับงานแต่งครับ
0 ความคิดเห็น