รื้อบ้านเก่า มาสร้างบ้านใหม่
วันนี้จะมารีวิวบ้านเดี่ยวให้ดูครับ แต่ที่จริงสร้างเสร็จได้ปีกว่ามาแล้ว แต่เพิ่งจะเสร็จ100เปอร์เซนเองครับ จะว่าไปแล้วคำว่าบ้านนั้นไม่เคยหยุดนิ่งจริงๆครับ เดี๋ยวก็มีต่อโน้นเติมนี่ไปเรื่อย
ขอเข้าเรื่องแล้วกันครับ คือเหตุผลที่รื้อบ้านนั้นเพราะว่าสร้างมานานแล้วครับ โครงสร้างหลายส่วนก็ผุพังไปตามกาลเวลา ตามพื้นบ้านก็มีปวกด้วยครับ จนในที่สุดบางส่วนของบ้านก็เริ่มมีอาการเหมือนจะพังลงมา ซึ่งตอนนั้นทางครอบครัวก็ไม่มีโครงการว่าจะปลูกบ้านกันเลยครับ เพราะคิดว่าเรียนจบแล้วผมกับพี่สาว2พี่น้องค่อยเก็บเงินปลูกบ้านใหม่ละกัน แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อมันจะพังก็เลยจำเป็นต้องรื้อครับ โดยช่วยกันออกแบบบ้านกันเอง มีโจทย์สำคัญคือ เอาไม้เก่าจากการรื้อมาสร้างใหม่อีกครั้ง แล้วทำเป็นบ้านไม้ทรงไทยปั้นหยาครับ
อันนี้หลังจากทำการรื้อของเก่าทิ้งแล้ว จะเห็นว่าด้านหลังของบ้านโครงสร้างจะเป็นไม้ ส่วนด้านหน้าที่สร้างใหม่ตอนผมเด็กๆจะเป็นเสาปูน ไม้ที่รื้อมาได้นั้นสามารถนำกลับมาใช้ได้กว่า80% ส่วนมากจะเป็นไม้ฝากับไม้พื้นและโครงหลังคาครับ
.
หลังจากแปรรูปมาไม้ได้ตามที่เราจะต้องการทั้งจำนวนเสาและขนาดด้วย ก็เริ่มขุดหลุมเทปูนสำหรับลงเสาครับ เสาไม้จะมีทั้งเสาไม้เก่าที่เป็นไม้ตัดนอนทิ้งไว้หลายปีแล้วไปขอซื้อมา และเสาไม้ตัดใหม่ที่ไปหาซื้อตามนาตามสวนของคนในหมู่บ้าน จึงทำให้บ้านหลังนี้มีประเภทของไม้หลากหลายมากครับ มีทั้งไม้สัก ราชพฤกษ์ ตะเคียน มะหาด เกด แดง ประดู่ เป็นต้น
อันนี้เป็นช่วงที่หนักสุดๆครับ คือแบกเสามาลงหลุมนี่แหละครับ กว่าจะครบเล่นเอาเหนื่อยกันไปหมดทั้งเจ้าบ้านและนายช่างเลยทีเดียว ผังของบ้านใหม่ที่วางไว้มีขนาดความยาวและความกว้างเท่ากับบ้านหลังเก่าพอดีครับ แต่จำนวนเสาน้อยกว่า บ้านหลังเก่ามีเสารวมแล้วเกือบ30เสา แต่บ้านหลังใหม่มีเพียง18เสาเองครับ เพราะบ้านหลังใหม่มีช่วงยาวxกว้างอยู่ที่7สอก แต่หลังเก่าอยู่ที่5สอกครับ และบ้านหลังนี้จะต่างจากหลังเก่าอยู่อีกอย่างคือ เสาไม้บ้านหลังใหม่นี้เป็นแบบเสาต่อ แต่บ้านหลังเก่าเป็นแบบเสาเดียว เสาเดียวหมายถึงไม้ท่อนเดียวยาวตั้งแต่ส่วนที่ฝังดินไปจนถึงโครงหลังคาเลยครับ แต่สมัยนี้หายากจริงๆ แล้วมีราคาแพงมากๆ สู้ราคาไม่ไหวเลยครับ
ตะละแร้นนน เห็นเป็นปั้นหยากันรึยังครับ ผมมองตอนแรกยังไงๆก็ไม่เหมือน พ่อบอกว่าอีกสักพักลูกมุงหลังคาก่อนเดี๋ยวก็เห็น ช่วงทำโครงหลังคานี่ทำนานมากๆครับหลายวันเลย จำได้ว่าขนไม้ขึ้นทั้งวันก็ไม่เสร็จเพราะทรงปั้นหยาใช้ไม้เปลืองมากๆครับ บางส่วนก็ต้องตัดต่อกันเลยทีเดียว ช่วงนี้พ่อบอกว่าเหนื่อยสุดๆ เพราะแก้แล้วแก้อีกบางวันเป็นงานแก้ทั้งวันครับ
ประตูมาแล้วครับ เครื่องไม้ตกแต่งต่างๆ พ่อบอกว่าฝั่งขวาของบ้านทำพนักพิงด้วย
ไปเป็นส่วนของบันไดภายในบ้านครับ โดยจะได้ต่างจากบ้านหลังเก่าคือ บ้านหลังเก่าเป็นแบบบันไดทางเดี่ยว แต่หลังหลังใหม่เป็นแบบหักสอกลงสองทาง คือ ทางนึงลงใต้ถุนบ้าน อีกทางนึงลงหน้าบ้านตรงทิศเหนือตามความเชื่อ
เริ่มแล้วๆ บ้านเค้าเริ่มมีสีแล้วนะ ไม่เป็นมาทางม้าลายแล้วครับ ตอนแรกจะเอาสีเขียวเหมือนบ้านหลังเก่า แต่ใครมาเห็นก็บอกว่าเอาสีย้อมไม้ดีกว่าเป็นธรรมชาติ เรื่องสีบ้านนี่เป็นเรื่องใหญ่เชียวครับ ตกลงกันไปมาอยู่หลายรอบที่ร้านสี
ต่อไปก็เริ่มการประกอบส่วนต่างๆ ดังเช่นประตูหน้าต่างบานเฟี้ยม บานประตูใหญ่ทำแบบเลื่อนซ้ายขวาเพื่อประหยัดเนื้อที่และไม่เกะกะครับ แล้วช่วงนี้เป็นช่วงเดียวกันกับพิธีขึ้นบ้านใหม่ด้วยครับเลยเก็บภาพมาฝาก
มาถึงตอนนี้ชั้นบนปีกขวาของบ้านได้ปิดบังส่วนที่เป็นปูนเรียบร้อยแล้วครับ คือมองจากด้านนอกจะไม่รู้เลยว่าชั้นบนปีกขวาของบ้านทำเป็นปูน และพอสร้างเสร็จก็เจอปัญหาว่าบันไดบ้านตากแดดตากลมแล้วก็ร้อนมากๆ ก็เลยต่อเติมกันสาดบันไดครับ เอาเสาไม้เก่าที่เป็นเสายาวจากดินถึงหลังคามาทำแปดเหลี่ยม แม่บอกว่าจะได้คิดถึงยายทวด
สุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมมากๆครับ หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆไม่มากก็น้อยครับ
เดอะทรี เอลิแกนซ์ ติวานนท์
ณ ใจกลางเมืองแห่งมรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรม ศิลปะของศาสตร์ชั้นสูง.. ความล้ำค่าแห่งเพชร ก่อกำเนินชีวิตหรูหรา สะท้อนความภูมิใจของผู้ที่ได้ครอบครอง The Tree Elegance เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ ไฮ-เอนท์ แต่ยังสะดวกสบายด้วยทางด่วน ท่าเรือ และ รถไฟฟ้าที่อยู่รายล้อม นับเป็นความล้ำค่าของชีวิต ทั้งวันนี้และอนาคตอย่างแท้จริง
ติดตาม อัพเดท ปรึกษา แบบบ้าน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านใหม่ ได้ที่ www.pruksa.com






























































0 ความคิดเห็น