วันนี้ขอเสนอการแข่งฟุตบอลศึกพรีเมียร์ลีกสุดมัน เป็นการเจอกันระหว่าง แมนยู vs เซาแธมป์ตัน
เปิดเกมมาได้ยังไม่ถึง 2 นาที อเล็กซานเดร แจนเควิตซ์ ของ เซาแธมป์ตัน ก็โดนใบแดงตั้งแต่ต้นเกม จากจังหวะยกเท้าสูงไปยันหน้าแข้งของ แม็คโทมิเนย์
หลังจากนั้น แมนยู ก็จะเป็นฝ่ายครองเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียว โดยที่ทีมเยือนก็เน้นรอจังหวะสวนกลับเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในที่สุดหลังจากสร้างโอกาสมาได้หลายรอบ วาน-บิซซาก้า ก็สามารถพาต้นสังกัดออกนำไปก่อนด้วยการเข้าชาร์จลูกเปิดของ ชอว์ ในนาทีที่ 17
ตามมา 1ประตู ในอีก 7 นาทีต่อมา โดย เริ่มต้นจาก ชอว์ อีกครั้ง ที่ผ่านบอลไปให้ กรีนวู้ด ก่อนจะตบเข้าในไปถึง แรชฟอร์ด ซัดเข้าไปง่ายๆ 2-0
ในนาทีที่ 33 แมนยู ได้ประตูที่ 3 ทิ้งห่างออกไปอีก จากการสกัดเข้าประตูตัวเองของ แยน เบดนาเรค ที่พยายามยื่นขามาเคลียร์ลูกเปิดเข้าในของ แรชฟอร์ด ทิ้ง
ลุค ชอว์ บวกแอสซิสต์ให้ตัวเองอีกหนจากการเปิดบอลไปให้ เอดินสัน คาวานี โหม่งเล่นทางเข้าไปนิ่มๆ 4-0
ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของ แมนยู ให้สัมภาษณ์ชื่นชมแบ็คซ้ายตัวแม่อย่าง ลุค ชอว์ ว่าเป็นอาวุธเด็ดที่จะช่วยพาทัพปีศาจแดงคืนสู่ความยิ่งให
หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก ปีศาจแดง นำห่าง เซาแธมป์ตัน 4-0
เปิดเกมครึ่งหลัง โซลชา ได้ถอดตัวหลักอย่าง คาวานี และ ลุค ชอว์ ออกไปพักทันทีและมีการปรับแทคติกไปให้ เฟร็ด เล่นแบ็คแทนด้วย
ในนาทีที่ 52 เช อดัมส์ ทำท่าว่าจะตีไข่แตกได้ก่อนจะโดน VAR ริบประตูคืนเพราะล้ำหน้าไปนิดเดียวเท่านั้น
ในนาทีที่ 69 มาร์กซิยาล รับบอลที่ บรูโน หยอดมาให้ก่อนจะเอาลงด้วยอกและยิงสวนตัว แม็คคาธี เข้าไป 5-0
อีก 2 นาทีต่อมา สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ พา แมนยู ทิ้งห่างไปครึ่งโหลแล้ว
นาทีที่ 86 หลังจากพิจารณาภาพช้าจังหวะที่ มาร์กซิยาล โดนทำฟาวล์แล้วล้มลงไปในกรอบเขตโทษกันอยู่นาน ในที่สุด ไมค์ ดีน ก็ตัดสินใจแจกใบแดงให้กับ เบดนาเรค และ เป็น เฟอร์นันเดส ที่สังหารจุดโทษไม่พลาด 7-0
แมนยูยังไม่หนำใจ มาร์กซิยาล ก็จัดลูก2ให้ จากลูกเปิดของ วาน-บิซซาก้า พักแล้วยิงทันที 8-0
เข้าช่วงสุดท้ายของเกม แดเนียล เจมส์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองแทปอินนิ่มๆ จากลูกโหม่งชงของ เฟอร์นันเดส 9-0 ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าหมดเวลาการแข่งขันไปในที่สุด
0 ความคิดเห็น