highlight

6/recent/ticker-posts

Ad Code

Responsive Advertisement

ปูอัด ไชยามพวาน ไม่รอด มติร่วมขับพ้นพรรคก้าวไกล

ปูอัด ไชยามพวาน

ข่าววันนี้ ปูอัด ไชยามพวาน ไม่รอด มติร่วมขับพ้นพรรคก้าวไกล

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลได้ประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาลงมติขับ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ปูอัด ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยมติที่ประชุมมีดังนี้

  • เห็นชอบให้ขับ นายไชยามพวาน ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ด้วยคะแนนเสียง 78 ต่อ 18 เสียง
  • มติดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทันที

การขับ นายไชยามพวาน ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ เกิดขึ้นสืบเนื่องจากกรณีที่มีการร้องเรียนว่า นายไชยามพวาน ได้กระทำการล่วงเกิน คุกคาม หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญทางเพศต่อบุคคลอื่น โดยนายไชยามพวาน ได้ยอมรับข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ไม่ได้แสดงความสำนึกผิดหรือขอโทษผู้เสียหายอย่างจริงใจ

การขับ นายไชยามพวาน ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพรรคในการปกป้องสิทธิมนุษยชน และการสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยพรรคก้าวไกลจะยังคงเดินหน้าต่อสู้เพื่อยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กต่อไป

สำหรับ นายไชยามพวาน ยังคงดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครต่อไป โดยหลังจากนี้ พรรคก้าวไกลจะดำเนินการยื่นหนังสือให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาถอดถอน นายไชยามพวาน ออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

มติขับออกจากพรรค สะท้อนความมุ่งมั่นของก้าวไกล

มติขับ นายไชยามพวาน ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพรรคในการปกป้องสิทธิมนุษยชน และการสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยพรรคก้าวไกลมีอุดมการณ์ในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก ดังนั้น กรณีของ นายไชยามพวาน จึงถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่พรรคไม่สามารถนิ่งเฉยได้

การขับ นายไชยามพวาน ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล แสดงให้เห็นว่าพรรคมีความรับผิดชอบต่อสังคม และพร้อมที่จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อปกป้องผู้เสียหาย โดยหลังจากนี้ พรรคก้าวไกลจะดำเนินการยื่นหนังสือให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาถอดถอน นายไชยามพวาน ออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

อนาคตของ นายไชยามพวาน

แม้จะถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลแล้ว แต่ นายไชยามพวาน ยังคงดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครต่อไป โดยหลังจากนี้ นายไชยามพวาน จะต้องเผชิญกับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งหากศาลพิพากษาว่ามีความผิดจริง นายไชยามพวาน อาจต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

นอกจากนี้ นายไชยามพวาน ยังอาจต้องเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสำคัญ และเรียกร้องให้เอาผิดผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

Ad Code

Responsive Advertisement