ข่าววันนี้ เต้าหู้ขน อาหารอร่อย ประโยชน์สูง แต่ควรระวัง
เต้าหู้ขนเป็นอาหารที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดมาจากแคว้นหูหนานในประเทศจีน ในปัจจุบัน เต้าหู้ขนได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก
เต้าหู้ขนมีลักษณะเป็นก้อนเต้าหู้สีขาวนวล มีเส้นใยสีขาวคล้ายปุยนุ่นขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วทั้งก้อน เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "เชื้อราหมักเต้าหู้" (豆腐乳菌) เจริญเติบโตบนเต้าหู้ เชื้อราดังกล่าวจะเร่งการจับตัวของโปรตีนระหว่างทำเต้าหู้ และช่วยย่อยโปรตีนด้วยเอนไซม์โปรติเอสเป็นกรดอะมิโนขนาดเล็ก ทำให้เต้าหู้ที่ผ่านการหมักมีรสชาติที่เข้มข้นกว่าปกติ นิยมนำไปทอดหรือย่างกินกับซอสพริก
เต้าหู้ขนมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม และวิตามินต่างๆ นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่าง บางครั้งอาจใช้เป็นส่วนผสมในอาหารจานอื่น เช่น แกงจืด น้ำพริก หรือยำ
อย่างไรก็ตาม เต้าหู้ขนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ในกลุ่มเสี่ยงบางกลุ่ม
- ผู้ที่แพ้เชื้อรา อาจมีอาการแพ้ เช่น คันตามผิวหนัง ผื่นแดง หรือหายใจลำบาก
- ผู้ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ อาจติดเชื้อจากเชื้อราได้
- ผู้ที่รับประทานเต้าหู้ขนในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ปวดท้อง หรือคลื่นไส้อาเจียน
นอกจากนี้ เต้าหู้ขนที่ผลิตในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดอาจปนเปื้อนเชื้อโรคอื่นๆ เช่น แบคทีเรีย หรือยีสต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังนั้น จึงควรเลือกซื้อเต้าหู้ขนจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม
ข้อควรระวังในการรับประทานเต้าหู้ขน
- ไม่ควรรับประทานเต้าหู้ขนหากมีอาการแพ้เชื้อรา
- ไม่ควรรับประทานเต้าหู้ขนหากมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- ไม่ควรรับประทานเต้าหู้ขนในปริมาณมากเกินไป
- ควรเลือกซื้อเต้าหู้ขนจากแหล่งที่เชื่อถือได้
- ควรตรวจสอบความสะอาดของเต้าหู้ขนก่อนรับประทาน
หากรับประทานเต้าหู้ขนแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น คันตามผิวหนัง ผื่นแดง หายใจลำบาก ท้องเสีย ปวดท้อง หรือคลื่นไส้อาเจียน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
0 ความคิดเห็น