ข่าววันนี้ ประชาธิปัตย์ 7 อดีต ส.ส. ลาออก หลังเฉลิมชัยขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค
นับตั้งแต่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ไปเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 จนถึงวันนี้ (12 ธันวาคม 2566) มีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ลาออกอย่างเป็นทางการแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย
- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค
- นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรค
- ทันตแพทย์สุรันต์ จันทร์พิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร
- นายวิบูลย์ ศรีโสภณ สมาชิกพรรคตลอดชีพ
- นายวิทเยนทร์ มุตตามระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร
- นายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)
การลาออกของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรคที่เพิ่มมากขึ้น โดยสาเหตุที่ลาออกนั้น มีทั้งเหตุผลส่วนตัว เหตุผลทางการเมือง และเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพรรค
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกเนื่องจากไม่พอใจที่พรรคเลือกนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคแทนตนเอง โดยระบุว่า "พรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนไป เน้นใช้เงินสร้างพรรคและสส. ในสมาชิกพรรค หัวหน้าพรรคตระบัดสัตย์ ไม่รักษาคำพูด ไม่สามารถให้การเคารพได้อีกต่อไป"
นายสาธิต ปิตุเตชะ ลาออกเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพรรคในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยระบุว่า "พรรคประชาธิปัตย์ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง ต้องกลับมายึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ต้องกลับมาเป็นพรรคของประชาชน"
ทันตแพทย์สุรันต์ จันทร์พิทักษ์ ลาออกเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพรรคในการบริหารประเทศ โดยระบุว่า "พรรคประชาธิปัตย์ต้องกลับมายึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ต้องกลับมาเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่"
นายวิบูลย์ ศรีโสภณ ลาออกเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพรรคในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยระบุว่า "พรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนไป เน้นใช้เงินสร้างพรรคและสส. ในสมาชิกพรรค"
นายวิทเยนทร์ มุตตามระ ลาออกเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพรรคในการบริหารประเทศ โดยระบุว่า "พรรคประชาธิปัตย์ต้องกลับมายึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ต้องกลับมาเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่"
นายสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ลาออกเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพรรคในการบริหารประเทศ โดยระบุว่า "พรรคประชาธิปัตย์ต้องกลับมายึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ต้องกลับมาเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่"
การลาออกของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคเป็นอย่างมาก และอาจทำให้พรรคสูญเสียฐานเสียงเดิมไป รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้
0 ความคิดเห็น