ข่าววันนี้ ประวัติ ขุนหลวงท้ายสระ พระมหากษัตริย์ที่มีพระราชกรณียกิจมากมาย
ขุนหลวงท้ายสระ หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9 เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 30 แห่งอาณาจักรอยุธยา และเป็นพระองค์ที่สามแห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง ราชวงศ์สุดท้ายของอาณาจักรอยุธยา ทรงครองราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2251 - พ.ศ. 2275
ขุนหลวงท้ายสระ มีพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าอภัย ประสูติเมื่อ พ.ศ. 2221 เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าเสือ กับพระนางราชินทรี (ท้าวทรงกันดาร) มีพระอนุชาร่วมพระราชมารดาคือ เจ้าฟ้านิ่ม
เมื่อพระราชบิดาสวรรคตในปี พ.ศ. 2251 จึงขึ้นครองราชย์ เฉลิมพระนามว่าพระเจ้าภูมินทราชา แต่จารึกชะลอพระพุทธไสยาสน์วัดป่าโมกข์ออกพระนามว่า พระบาทพระศรีสรรเพชญสมเด็จ
ขุนหลวงท้ายสระทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระราชกรณียกิจมากมาย ทั้งด้านการปกครอง ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม ทรงสถาปนาวัดสำคัญหลายแห่ง เช่น วัดพุทไธศวรรย์ วัดไชยวัฒนาราม และวัดพระศรีสรรเพชญ์วรมหาวิหาร ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ขึ้นใหม่ และทรงสร้างพระราชวังหลังขึ้นเป็นพระราชวังที่ประทับส่วนพระองค์
นอกจากนี้ ขุนหลวงท้ายสระยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระราชอัธยาศัยอ่อนโยน รักสงบ และทรงพระปรีชาสามารถในด้านดนตรี ทรงโปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมเพลงไทยขึ้นเป็นบทเพลงชุดหนึ่งเรียกว่า “เพลงสรรเสริญพระบารมี” ซึ่งยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน
พระราชอัธยาศัยและความสามารถ
ขุนหลวงท้ายสระทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระราชอัธยาศัยอ่อนโยน รักสงบ และทรงพระปรีชาสามารถในด้านดนตรี ทรงโปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมเพลงไทยขึ้นเป็นบทเพลงชุดหนึ่งเรียกว่า “เพลงสรรเสริญพระบารมี” ซึ่งยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน
ขุนหลวงท้ายสระทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระราชกรณียกิจมากมาย ทั้งด้านการปกครอง ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยความร่มเย็นเป็นสุข และทรงสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นอมตะไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาและสืบทอดต่อไป
0 ความคิดเห็น