ฟิล์ม รัฐภูมิ เข้าแจ้งความ หนุ่ม กรรชัย ข้อหาความหมิ่นประมาท

ข่าววันนี้ ฟิล์ม รัฐภูมิ เข้าแจ้งความ หนุ่ม กรรชัย ข้อหาความหมิ่นประมาท

จากกรณีที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ พร้อมด้วย ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช เดินทางไปแจ้งความที่สนามบินห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีกับบุคคล 2 คน ที่นำชื่อของฟิล์ม รัฐภูมิ ไปเผยแพร่ต่อสาธารณะจนก่อให้เกิดความเสียหาย โดยมีรายละเอียดดังนี้

บุคคลแรก ที่ถูกดำเนินคดีคือ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ (อี้ แทนคุณ) ซึ่งฟิล์มและทนายประมาณเตรียมแจ้งความใน 8 ข้อกล่าวหา เกี่ยวกับการอ้างถึงหลักฐานที่ไม่เป็นความจริงในหลายกรณี หนึ่งในนั้นคือคดีที่จ.ตรัง ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนเทรดหุ้นดูไบ 60 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้ได้สิ้นสุดลงแล้วโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ต่อฟิล์ม รัฐภูมิ แต่อี้ แทนคุณกลับนำเรื่องนี้มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนหลายครั้ง เพื่อสร้างกระแสให้กับตัวเอง

บุคคลที่สอง คือ นายภูดิท กำเนิดพลอย (หนุ่ม กรรชัย) ซึ่งจะถูกดำเนินคดีใน 3-4 ข้อกล่าวหาจากทั้งหมด 6 ข้อ โดยกรณีนี้เกี่ยวข้องกับการนำคลิปเสียงระหว่าง น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร (บอสปัน) และ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ มาเชื่อมโยงกับฟิล์ม รัฐภูมิ พร้อมอ้างว่าฟิล์มมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตบทรัพย์เหล่าบอสดิไอคอน กรุ๊ป จำนวน 20 ล้านบาท สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ฟิล์ม รัฐภูมิได้รับความเสียหายอย่างมาก ทนายประมาณได้กล่าวถึงผู้ที่กล่าวหาว่า “พวกคุณนั้นจัญไร ในการกล่าวหาอย่างรุนแรง” และยังระบุว่าหากมีบุคคลอื่นที่กระทำในลักษณะเดียวกัน ก็จะถูกดำเนินคดีเป็นรายต่อไป

ทั้งนี้ ฟิล์ม รัฐภูมิยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองในทุกคดี และมั่นใจในพยานหลักฐานที่ทีมงานของเขามี

ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ โดยชี้แจงว่า “สื่อทุกสื่อสามารถนำคำพูดนี้ไปลงได้เลย ผมขอชี้แจงทางนี้โดยไม่ต้องติดต่อมาขอสัมภาษณ์ผม” เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ถ้าคุณคิดว่าคุณได้รับความเสียหายจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง คุณสามารถใช้สิทธิ์ไปแจ้งความหรือฟ้องร้องต่อศาลได้ แต่ถ้ามันไม่ตรงกับข้อเท็จจริง มันก็จะมีผลตามมาเช่นกัน ผมพูดในฐานะที่มีส่วนเกี่ยวข้อง บางคนที่ไม่เข้าใจ ถ้าวันหนึ่งคุณถูกเอาชื่อไปแอบอ้าง ไปเรียกเงินคนอื่น แล้วคุณออกมาพูดเพื่อปกป้องตัวเองว่า ‘ผมไม่ใช่คนแบบนั้น’ แต่คนนั้นกลับมาแจ้งความคุณ ผมถามว่ามันเป็นธรรมกับคุณไหม?”

เขายังตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมในสังคมว่า “บ้านเมืองเราจะอยู่กันด้วยวิธีที่ว่า ใครจะเอาชื่อใครไปหากินก็ได้ แต่พอเราออกมาพูดก็โดนแจ้งความซ้ำ จะอยู่กันอย่างนี้เหรอ? มันถูกต้องเหรอ? ผมเชื่อว่าประชาชนเขาก็ไม่ได้กินหญ้า”