การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2026 รอบคัดเลือก เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายที่น่าตื่นเต้นที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่ม B ที่เป็นการชิงชัยกันระหว่าง "โต๊ะเล็กช้างศึก" ทีมชาติไทย และ ทีมชาติเกาหลีใต้ ซึ่งทั้งสองทีมมีผลงานยอดเยี่ยมด้วยการคว้าชัยชนะมา 2 นัดรวดเท่ากัน บทความนี้จะวิเคราะห์สถานการณ์ ความได้เปรียบ และโอกาสของทีมชาติไทยในการคว้าแชมป์กลุ่มเพื่อผ่านเข้ารอบสุดท้ายต่อไป
สถานการณ์ล่าสุด: ฟุตซอลทีมชาติไทยนำจ่าฝูงด้วยประตูได้เสียที่เหนือกว่า
หลังจากลงสนามไป 2 นัด ทั้งไทยและเกาหลีใต้ต่างเก็บ 6 คะแนนเต็มจากชัยชนะ 2 นัดรวด แต่สิ่งที่ทำให้ทีมชาติไทยได้เปรียบคือ ผลต่างประตูได้เสีย ที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยทีมชาติไทยยิงไปถึง 19 ประตู (ชนะบรูไน 15-1 และชนะบาห์เรน 4-0) ขณะที่เกาหลีใต้ทำประตูได้ไม่มากเท่า (ชนะบรูไน 3-0 และชนะบาห์เรน 5-2) ทำให้การเจอกันในวันนี้ (24 กันยายน 2568) เป็นการตัดสินแชมป์กลุ่มอย่างแท้จริง
จุดแข็งของทีมชาติไทย: ฟอร์มสุดร้อนแรงและความได้เปรียบในบ้าน
ทีมชาติไทยภายใต้การคุมทีมของ "มิเกล โรดริโก้" โค้ชชาวสเปน โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์ ผู้เล่นทุกคนมีความเข้าใจระบบการเล่นและสามารถประสานงานกันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ดาวยิงตัวเก่ง ที่สร้างความอันตรายในแนวรุกได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การได้เล่นในบ้านที่ยิมเนเซียม สนามกีฬากลาง จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มกำลังใจและความคุ้นเคยในสนามให้กับทีมได้อย่างมาก
จุดอ่อนของเกาหลีใต้: เกมรุกที่ยังไม่จัดจ้านเท่าที่ควร
แม้จะชนะรวด 2 นัด แต่ประตูได้เสียที่น้อยกว่าทีมชาติไทยบ่งชี้ว่า เกมรุกของเกาหลีใต้อาจยังไม่ดุดันเท่า และจากการวิเคราะห์การเล่นในนัดที่ผ่านมา เกาหลีใต้เน้นเกมรับที่รัดกุมเป็นหลัก และอาจใช้จังหวะสวนกลับเร็วเพื่อโจมตีจุดอ่อนของคู่แข่ง การต้องเจอกับทีมชาติไทยที่เป็นเจ้าบ้านและมีเกมรุกที่หลากหลาย ทำให้เกาหลีใต้จำเป็นต้องวางแผนรับมืออย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เสียประตูตั้งแต่เนิ่นๆ
0 ความคิดเห็น