บ้านใหม่หลังน้อยกลอยใจ เหนื่อยแค่ไหนก็สู้โว้ย

บ้านใหม่หลังน้อยกลอยใจ เหนื่อยแค่ไหนก็สู้โว้ย

ก่อนหน้านี้ครั้นเมื่อหลายปีก่อน ไม่เคยคิดเลยว่า การสร้างบ้านสักหลังจะเหนื่อยแทบขาดใจขนาดนี้ คิดแต่ว่าจะปลูกบ้านให้ย่าอยู่ ก็เพราะว่าบ้านหลังเดิมร่อแร่เต็มที่ นับอายุได้ก็เกือบ 60 ขวบกว่าๆ (แก่กว่าพ่อเราอีกนะ) แต่เผอิญว่าพ่อเรารีบไปหaอยเลยโบกมือบ๊ายบายโลกนี้ไปครั้งราวๆ 10 ปีที่แล้ว ภาระหน้าที่การปลูกบ้านใหม่เลยตกอยู่ที่เรากับพี่สาว

จะเรียกว่าโชคดีได้มั้ยก็ไม่รู้ ที่พี่สาวเราทำงานอยู่ธนาคารที่พอจักมีสวัสดิการพร้อมทั้งรู้ระบบในการหมุนเงินพอสมควร การกู้เงินเราเลยยกให้เป็นหน้าที่ของนางไป พร้อมกับอีกความโชคดีหนึ่งก็อยู่ตรงที่พี่ชายสุดหล่อของป๊ะป๋า (เรียกลุงง่ายกว่าเป่า ) ทำงานราชการพร้อมกับดูแลเรื่องการปลูกสร้างอยู่แล้ว เลยมีที่ปรึกษาชั้นเยี่ยม ลุงเลยแนะนำให้เราเเลื่องลือกใช้บริการ “Royal House” (จักเสียค่าโฆษณามั้ยอ้ะ)

เหตุผลที่เเล่าลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านใหม่พร้อมอยู่แบบนี้ คุณลุงให้เหตุผลว่า อย่างน้อยจะได้ตัดปัญหาเรื่องผู้รับเหมาทิ้งงาน (ซึ่งคิดว่าหลายๆ ท่านคงได้ประสบพบเจอกันมาบ้างแล้ว) ก็เพราะว่าต้องมีการเซ็นข้อตกลงกันอย่างชัดเจน ว่าจะทำอะไรให้กับเราบ้าง ส่วนที่อยู่นอกข้อผูกพันทางบริษัทจักติดต่อให้ และใช้วิธีการจ้างทะลุทะลวงบริษัท อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ามูลค่าตลาดอยู่บ้าง เพราะว่าแน่นอนว่า บริษัทจักต้องมีกำไร ค่าบริหารจัดการ ค่าติดต่อประสานงาน บลา บลา บลา แต่อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่า มีการรับประกันอย่างถูกต้อง ด้วยกันบริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่างจากการทำงานของผู้รับเหมาเหล่านั้น (ซึ่งได้เห็นผลดีของการจ้างบริษัท เมื่อตอนบ้านใกล้เสร็จ --- อดใจรอสักครู่ จะเล่าให้ฟังตอนท้าย)

ปฏิบัติการปลูกบ้านใหม่จึงโหมโรงขึ้น... ระบบการทำงานของ Royal House ก็คือ การติดต่อผู้รับเหมาเจ้าอื่นๆ ที่ให้บริการด้านต่างๆ มาทำงานให้ลูกค้าแต่ละหลัง ส่วนใหญ่จักรวมอยู่ในอนุสัญญาอยู่แล้ว แต่บางอย่างก็จักไม่รวม ซึ่งตรงนี้ต้องดูให้ดีๆ นะคะ ว่าตรงจุดไหนบ้างที่เราต้องจ่ายเพิ่มต่างสมมุติ (ต้องเตรียมเงินสดไว้ต่างถ้าหากจำนวนหนึ่ง ซึ่งเสนนราคาดเดาไว้ว่าคาดคะเน 5 แสนบาท)

บริษัทได้ติดต่อผู้รับเหมาที่จักมารับซื้อบ้านไม้หลังเก่าของเราทดแทนค่ารื้อถอน บอกตรงๆ ว่าเสียดายไม้มากๆ เพราะมีทั้งไม้สัก ไม้แดงดีๆ ชิ้นเป้งๆ แต่ไม่มีปัญญาจะเก็บไว้ต้องขายหมด (แหม ถ้ามีเงินซัก 10 ล้าน จักเก็บไว้ให้หมดเลยเชียว)


บ้านไม้หลังเดิมเกริ่นมีการรื้อถอนในวันแรก


ถ่ายรูปไปน้ำตาตกในแบบเงียบๆ ก็เพราะว่าอยู่มาตั้งแต่เกิด (แอบเสียดายไม้อยู่ลึกๆ งกเนอะ 555)


ครั้นเมื่อรื้อถอนไม้เสร็จ เหโจษแต่โครงเสาแบบนี้



ถึงเวลาแล้วที่รถแบ็คโฮคันใหญ่จะเข้ามาขุดรากถอนโคน


จนเหโจษแต่ดินโล่งๆ แบบนี้




ภายหลังขั้นตอนของการออกแบบโครงการบ้านใหม่เสร็จสิ้นเรียบร้อย ทั้งการยื่นแบบกับทางเขต พร้อมกับแก้แบบแล้ว ชนิดที่เรียกว่า แก้แล้วแก้อีก (ขั้นทันทีลุงเราเป็นคนดูแลให้ทั้งหมด) จนในที่สุดก็ได้เวลาลงเสาเข็มกับขึ้นเสาเอก --- ไม่มีการเชิญพระ (ก็เพราะว่าพระที่สนิทท่านเสียไปแล้ว) ไม่มีการเชิญพราหมณ์ (เพราะว่าไม่รู้จักไปเชิญที่ไหน) เอาละฟระ ทำเองก็ได้ 555



ได้เตรียมของเท่าที่จะหาได้ตามรายการจากอากู๋ด้วย ครบบ้าง ขาดบ้าง  เอาน่ะ ทำด้วยใจโนะ


ผูกๆ มัดๆ




โปรยๆ


ขึ้นต้นเทเสาเข็มทีละหลุม


วางคานพื้นบ้านชั้นแรก




จนขึ้นเป็นคานพื้นบ้านออกมาแบบนี้ พอถึงขั้นในเวลานี้ จะต้องเริ่มทำตัดสินใจแล้วว่า จะถมใต้พื้นบ้านให้เต็ม ไม่ก็จะ อนุญาตโล่ง ซึ่งเท่าที่ปรึกษากับทางช่าง กับหาข้อมูลจากอากู๋ประกอบ ก็ขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์พร้อมกับความต้องการ เราเลือเลื่องก ปล่อยโล่ง เพราะว่าจักช่วยระบายอากาศใต้พื้นบ้าน พร้อมกับที่สำคัญ ไม่มีงบหมายเพราะถม (5555 อันนี้เรื่องใหญ่นะคะเรื่องเงินเนี่ย ต้องกะกันดีดี ก็เพราะว่าจะมีส่วนเกินที่จำเป็นจริงๆๆ ออกมาอีกเยอะแยะมาก) พร้อมทั้งเพื่อไม่ให้มีตัวอะไรเข้าไปอาศัยอยู่ กับป้องกันพื้นรอบข้างทรุด เราเลยตัดสินใจทำครีบกันดินปักรอบบ้าน แต่ไม่ได้ใช้แบบที่เป็นเข็มขนาดเล็ก ก็เพราะว่าบ้านเราอยู่ใจกลางเมือง ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ดินทรุด (ซึ่งอันนี้ต้องศึกษาและปรึกษาช่างให้ดีๆ นะคะ ก็เพราะว่าการจะเเอิกเกริกกทำครีบกันดินแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพดิน พร้อมทั้งสภาพภูมิประเทศของบ้านคุณด้วยค่ะ จะได้ไม่เป็นการเสียเงินเพราะว่าใช่เหตุแบบเกินจำเป็น)




ขณะลงคานชั้นแรกเสร็จแล้ว ก็ริเริ่มประกอบร่างเสาเหตุด้วยขึ้นชั้นสอง


เสร็จแล้วค่ะ ทั้งเสาทั้งคานพร้อมเทพื้นเพื่อชั้นสองเรียบร้อย ขั้นคราวนี้จะเริ่มมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเรื่องการฉีดปลวก ตรงนี้ทางบริษัทจักติดต่อให้ พร้อมด้วยให้เราเเลื่องกแพคเกจว่าหวังได้การบริการแบบไหน อันนี้พี่เราเป็นคนจัดการ คือจะมีการฉีดซ้ำทุก 3 ปี ที่เห็นถังฟ้าๆ นั้นคือถังน้ำยาฉีดปลวกค่ะ เจ้าหน้าที่จะเรียกเราไปดูว่าได้เทน้ำยาลงในถังผสมแล้วยิ่ง (อันนี้เพิ่งทราบทีหลังว่า หลายที่โดนหลอกเอาน้ำยาปลอมมาผสมให้ บริษัทเลยเรียกให้เราดูเพื่อยืนยันว่า เค้าใช้น้ำยาของแท้จริง เปิดขวดกันตรงนั้นเลยค่ะ)


ขณะเทพื้นชั้นสองเสร็จแล้ว (หารูปตอนเทชั้นสองไม่เจอง่ะ T_T) ก็เตรียมเสาเนื่องด้วยขึ้นโครงหลังคาถัดค่ะ


ตรงโครงหลังคาก็จะมีการให้เละบือกค่ะว่า เราจะใช้กันฉนวนแบบไหน (บริษัทจะชอบเอานู่น นี่ นั่น มาเสนอว่า จักเพิ่มตังค์มั้ยฮัฟ ได้ของดีฝ่าน้า --- เค้าจักขายของอะเนอะ 555) อันนี้ต้องระวังให้ดีนะคะ เพราะเราทุนทรัพย์ค่อนข้างจำกัดมากๆ ขนาดเตรียมส่วนเกินไว้ 5 แสน ยังต้องกู้เพิ่มเลยค่ะ แต่ถ้าให้ไม่อั้น ก็จัดเต็มไปเลยไม่ว่ากันค่ะ


ไว้ระหว่างขึ้นโครงหลังคา สำหรับบนพื้นชั้นล่างก็เตรียมก่ออิฐแล้วค่ะ ของ Royal House จักใช้เป็นอิฐมวลเบา อันนี้เท่าที่เราหาข้อมูลอากู๋มา หลายๆ ท่านว่าอิฐมอญดีกว่า แต่ค่าใช้จ่ายเรื่องค่าแรงก็จักสูงกว่าตามไปด้วยค่ะ เราไม่ได้ชี้เค้าแต่แรกว่าเราต้องการอิฐแบบไหน ซึ่งไหนให้คำมั่นระบุไว้ว่า ใช้อิฐมวลเบา ก็โอเคค่ะ ไม่ว่ากัน (เงินไม่มีนี่เนาะ ฮืออออ)

ไว้พื้นบันได แล้วเทเสร็จแล้วค่ะ และตรงนี้ต้องขอบคุณช่างด้วยเหมือนกันค่ะ ที่ช่างสังเกตว่าสมาชิกในบ้านค่อนข้างมีพื้นที่ไขมันหนาแน่น 555 ซึ่งห้องใต้บันได้อาจจักเล็กเกินไป ช่างเลยเสนอให้กลับขั้นบันได คือ เอาจำนวนขั้นอย่างยิ่งไว้ด้านล่าง แล้วเอาจำนวนน้อยไว้ด้านบน ทำให้ห้องใต้บันไดสูงด้วยกันกว้างขึ้น (ซึ่งตรงนี้จักมีค่าใช้จ่ายเปลี่ยนประตูเป็นบานใหญ่ขึ้น เพราะว่าเกินจากที่ปฏิญาณระบุ แต่บริษัทแถมให้ค่ะ 5555 ซื้อมาเปลี่ยนให้เลย) --- ช่างที่ทางบริษัทหามาให้ ขอกราบทูลตรงนี้เลยค่ะว่า ทั้งความรู้ความเชี่ยวชาญเต็มเปี่ยม รู้จักสังเกตกับปรับให้เข้ากับรูปแบบการอยู่อาศัยของเจ้าของบ้าน เข้าทำนองปลูกอู่ตามใจผู้สร้างแท้จริงๆ ค่ะ แต่เค้ามีปัญหาเรื่องส่วนตัวที่จักขอไว้เล่าให้ฟังภายหลังนะคะ




ระหว่างการก่ออิฐมวลเบา ช่างของที่นี่จะใช้โครงเหล็กเป็นเอ็นยึดระหว่างเสาและตัวอิฐเพื่อให้บ้านมีความแข็งแรงมากขึ้น (ซึ่งตรงนี้การติดตั้งวัสดุแขวนผนังอื่นๆ จักต้องมีพิมพ์เขียวประกอบเพื่อให้ทราบว่ามีโครงเหล็กอยู่ตรงส่วนไหนของบ้านบ้างนะคะ ให้ระวังด้วย) ทราบมาจากช่างว่าอันนี้เป็นเทคนิคใหม่ ที่ต้องใช้ความประณีตพอสมควร พร้อมทั้งคุณลุงมาตรวจสอบดูก็โอเคค่ะ คงทนแข็งแรง


ขึ้นมาดูชั้นสองกันบ้างค่ะ

พอถึงขั้นช่วงนี้ เราสังเกตเห็นว่าห้องน้อนชั้นล่าง พร้อมด้วยห้องนอนเล็กชั้นบนพอก่ออิฐขึ้นเสาแล้ว จักเหลือพื้นที่ใช้สอยน้อยมาก แบบมากนักๆ อะค่ะ (อันนี้ต้องระวังตอนเขียนแบบบ้านให้ดีนะคะ ว่าเหลือเลื่องพื้นที่ใช้สอยเท่าไร เพราะว่าเสาแต่ละต้น จักกินพื้นที่เข้าไปอีกค่ะ) เราเลยตัดสินใจให้ช่างรื้อกำแพงด้านล่างบางส่วนออกแล้วทะลุห้องให้กว้างขึ้น ส่วนชั้นบนที่ยังไม่ก่อ ก็เปลี่ยนแปลนใหม่ ทำเป็นห้องพระเล็กแทน แล้วขยายห้องนอนเล็กสองห้องรวมกันเป็นห้องเดียว


กำแพงชั้น 1 เสร็จแล้วค่ะ


หลังคามุงก็เสร็จแล้ว กับกำแพงชั้น 1 ได้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ชั้นสองริเริ่มมีการก่ออิฐบางห้องตามแปลนที่ปรับปรุงไป



หลังจากขั้นเวลานี้ บริษัทจักโหมโรงมีการบ้านมาให้เราทำค่ะ เช่นการเเล่าลือกสีบ้าน การเเล่าลือกแบบห้องน้ำ วัสดุ กระเบื้องปูพื้น ซึ่งเราจักต้องไปเลือกเองตามร้านที่บริษัทมีดีลไว้ เพราะว่ามีข้อจำกัดอยู่ที่ราคาตามแพคเกจที่เราเเอิกเกริกก ทางร้านจะคำนวณให้ว่า แบบไหนที่อยู่ในขอบเขตค่าของอนุสัญญา แต่ถ้าเราตะกลามได้แบบอื่นๆ ก็รอบรู้ทำได้ค่ะ จ่ายส่วนต่างเพิ่มไป ซึ่งเราเลือเลื่องกร้าน แกรนด์โฮมมาร์ท เพราะว่ารอยัลเฮาส์ สาขาดุสิตมีดีลไว้อยู่ แล้วทางบริษัทก็รับสั่งว่า ร้านนี้จะให้บริการดี ซึ่งก็โอเคค่ะ ทันทีที่เราเเลื่องกลายกระเบื้องได้แล้ว ทางร้านก็จักออกแบบลายห้องน้ำมาให้เราเเอิกเกริกก ซึ่งเค้าจะถามความต้องการเราก่อนว่าอยากได้แนวๆ ไหน


แบบห้องน้ำชั้น 1 ค่ะ


แบบห้องน้ำชั้น 2


ของยิ่งได้ออกมาราวๆนี้ค่ะ ยังไม่เสร็จดี


ของแท้จริงชั้น 2 ค่ะ



ปางก่อกำแพงเสร็จแล้วก็เริ่มทำฉาบ ตรงกระจกแก้วที่เห็น ทางบริษัทก็จักมีลายมาให้เโจษกเช่นกันค่ะ


ฉาบภายในแล้ว ก็ต้องฉาบภายนอกด้วย ขึ้นต้นเป็นรูปเป็นร่างแว้วววว


ในห้องเก็บของใต้บันได ที่ช่างได้สลับขั้นให้ เลยกว้าง แบบกว้างมว้ากกกก (บังคับให้คุณแม่บ้านเป็นนางแบบ ฮี่ฮี่)


ปางเฟุ้งเฟื่องกสีบ้านพร้อมทั้งรูปแบบการสีได้แล้ว ทางบริษัทก็จะส่งแบบมาให้ดูอีกที เพื่อยืนยัน


บ้านก่อนทาสี


เริ่มต้นลงสีแล้วจ้ะ




แก้ให้เป็นสีอ่อนแล้ว ก็ได้แบบนี้ค่ะ (ค่อยยังชั่ว ฮือออออๆๆๆ)


ในระหว่างทาสีภายใน ที่เสาคู่หน้าบ้านก็เสร็จไปแล้วค่ะ



สีภายนอกด้านข้างค่ะ


สำหรับสีชมพูอ่อนที่ทาใหม่ ได้กับกระเบื้องปูพื้นห้องรับแขกด้วย เราเร่ำลือกเป็นแบบไม่ลื่นค่ะ ก็เพราะว่ากลัวคุณย่าหกล้ม แต่ที่ฮากว่านั้นคือ เพิ่งไปเห็นว่า เป็นกระเบื้องแบบเดียวกันที่ใช้ในห้องน้ำบ้านใหม่ของน้องสาว เค้าเอาไว้กันลื่นจริงๆๆ ค่ะ 55555555





หลังปูพื้นลามิเนทเสร็จบริษัทจักเอาพาพลาสติกมาปูแบบนี้ พร้อมแรพเทปกาวปิด เพื่อป้องกันความเสียหายจากการเก็บสีรอบสุดท้ายค่ะ


เริ่มต้นขึ้นเสาเพราะด้วยรั้วข้างบ้าน เอาสั่งจ้างเพิ่มเพราะว่าของเก่าพังหมดแล้วค่ะ รวมเฉพาะค่ารั้วฉาบตื้นทาสีเฉพาะด้านหน้า รั้วด้านข้างรวม 18 เมตร 99000 บาท

มาถึงตรงนี้ทันทีที่รวมค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมา 5 แสนบาทไม่พอแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นค่าหน้าต่าง UPVC ค่าทำครีบกันดิน ค่ารั้ว ค่ารางน้ำ ค่าเหล็กดัด ค่ากันสาดหลังบ้าน สรุปว่าต้องกู้เพิ่มอีกสองแสน (ซึ่งก็ยังไม่พอพร้อมด้วยส่อแววว่าจักต้องกู้เพิ่มอีกแต่แค่หลักหมื่นค่ะ)


ที่รั้วที่เซาะร่องเสร็จแล้วขึ้นเป็นรูปเป็นร่างด้วย


สำหรับกันสาดที่สั่งทำเพิ่มค่ะ ก็เป็นเจ้าเดียวกับที่ทำเหล็กดัด แต่ว่าเราไม่ได้จ้างสร้างผ่าน Royal House ด้วยเหตุที่เจ้านี้เป็นเพื่อนกับคุณลุง พร้อมกับทำกันสาดกับเหล็กดัดให้ที่บ้านเรามานาน เลยไว้ใจกัน ให้เค้าทำทั้งหลังเลยค่ะ





นรุ่งขึ้น คนงานขนของทุกอย่างขึ้นรถบรรทุกไปทั้งหมด พร้อมด้วยคนงานก็ขนตามไปในวันถัดจาก พร้อมนำเงินที่กู้ไปมาคืนให้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และสร้างความอุ่นใจให้เราได้แน่ๆๆ ค่ะ ที่เรามั่นใจว่าเป็นฝีมือของคนงานนั้น ก็เพราะว่าเราอยู่บ้านหลังนี้มาตลอดชีวิต ตั้งแต่เกิด ในระแวกบ้าน ซอยบ้าน ไม่เคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้กันมาก่อนเลยแท้ๆ

วันนี้ เป็นวันที่ช่างเข้ามาทำความสะอาดบ้านเพราะเก็บสีกับรายละเอียดอื่นๆ เสร็จสิ้นเกือบหมดแล้ว พร้อมกับคาดว่าจักส่งมอบบ้านได้ภายในวันจันทร์หน้าแล้วค่ะ


บ้านน้อยกลอยใจ >..< เพิ่งถ่ายสดๆ มามะเช้าเอง


อีกซักมุม จักว่าเค้าขี้อวดก็ยอมล่ะ ฮือออออ

ที่มาจากคุณ  ^^น้องฟ้า^^  จากเว็บ pantip ครับ