highlight

6/recent/ticker-posts

Ad Code

Responsive Advertisement

รีวิว จากประสบการณ์ตรวจรับบ้านใหม่ด้วยตนเอง มาชมกันครับ



รีวิว จากประสบการณ์ตรวจรับบ้านใหม่ด้วยตนเอง มาชมกันครับ









ได้ออกตัวก่อนนะครับว่า ผมนั้นไม่ได้จบวิศวะโยธา  และไม่ได้เป็นช่าง ไม่ได้มีความรู้เรื่องนี้มากมายนะครับ ผมก็อาศัยอ่านจากหนังสือที่แจกฟรีในเน็ตนี่ล่ะครับ แล้วก็ไปตรวจด้วยตนเอง เลยเอาประสบการณ์มาแชร์ให้เหตุด้วยผู้ที่ยังลังเลอยู่ว่าจักตรวจเอง เหรอ จะจ้างเค้า เห็นช่วงนี้มีกระทู้สอบถามมาเพียบ เลยขออนุญาตแชร์ครับ


แนะนำว่า สมมตคิดจักตรวจรับเอง ควรต้องอ่านเล่มนี้ให้จบ อย่างน้อย 2 รอบ จะทำให้เข้าใจพร้อมทั้งจดจำได้ดียิ่งขึ้นนะครับ หนังสือเล่มบางๆครับ อ่านแป๊บเดียวก็จบรอบนึงแล้วครับ



ขั้นตอนการเตรียมการ

1. นัดวันที่จะตรวจรับบ้านกับทางโครงการบ้านใหม่  โดยเเล่าลือกวันที่ว่างทั้งวันนะครับ เพราะว่าต้องใช้เวลาทั้งวันในการตรวจแน่นอน ส่วนจะเอาวันไหน ก็นัดกับเซลล์ได้เลยครับ เกี่ยวกับผม เพราะผมรู้ตัวดีว่า ผมขี้เกรงใจ ถ้ามีคนมาเดินตรวจกับผม อาจทำให้ผมตรวจไม่ละเอียด พร้อมกับไม่มีสมาธิในการตรวจ ผมเลยนัดกับเซลล์ ช่วงบ่าย 2 (โครงการของผม มีเซลล์ วิศวะโยธา โฟร์แมน สถาปนิก มาเดินร่วมด้วย) ส่วนตัวผมจะเข้ามาตรวจก่อนตอนเช้า (ประมาณการ 9 โมงเช้า) เพื่อที่ว่า จักได้นำเสนอข้อมูลได้เลย ไม่เสียเวลาครับ

2. สิ่งสำคัญคือ ต้องให้ทางโครงการต่อน้ำต่อไฟเข้าบ้านให้เราก่อนตรวจรับครับ เพื่อจะได้เช็คว่ามีปัญหาไฟรั่ว น้ำรั่วตรงไหนไม่ก็ไม่ แต่ทั้งนี้ถ้าไม่ได้ต่อมิเตอร์ ก็อาจจะเช็คการรั่วของน้ำพร้อมทั้งไฟแบบเล็กๆน้อยๆไม่ได้ ถ้าโครงการไหนยังไม่ต่อให้ สั่งให้ทำเลยครับ อื้นเค้าเลยว่า ถ้าเอ็งยังไม่ต่อ ข้าก็ยังไม่เข้าตรวจ 5555 ถ้ายังไม่โอน เอ็งก็ยังไม่ได้ค่าคอม 555  (แต่เราก็ได้เข้าบ้านช้าด้วย T_T  ) ของผมทางโครงการต่อน้ำไฟเข้าแบบชั่วคราวให้เลย ไม่ต้องขอ

3. นอกจากนี้ อาจให้โครงการเค้าเตรียมบันไดพับไว้ด้วย (จักได้ใช้ตรวจใต้หลังคา เข้าทางช่องเซอร์วิส) แต่ต้องถามให้ดีนะครับว่าบันไดสูงแค่ไหน เข้าบ้านได้มั้ย ก็เพราะว่าของผม ขอเค้าไว้ ทางโครงการก็เตรียมให้ แต่เป็นบันไดยาว เอาเข้าบ้านไม่ได้  ถ้าใคร่ได้จักตรวจใต้หลังคาด้วย ก็ต้องหาบันไดมาเองด้วย (แต่ของผมหาไม่ได้ เลยไม่ได้ตรวจ)

4. อุปกรณ์ที่เตรียมไป อ้างอิงตามหนังสือที่ผมโพสไว้ข้างบนนะครับ มีบางหัวข้อไม่ได้ใช้ก็มีครับ

1) กระดาษจดข้อมูล + ปากกา/ดินสอ ผมใช้เป็นสมุด ก็เพราะว่าจะได้ไม่ปลิวหาย ถ้าเป็นกระดาษ ควรเตรียมกระดานหนีบไปด้วยจักได้เขียนได้สะดวกนะครับ ในหนังสือทำเป็นตารางด้วย สุทธิๆก็ดีนะครับ แต่ด้วยว่าผมไม่ชอบ เพราะผมต้องวาดรูปด้วย เพื่อระบุตำแหน่งแบบภาพรวมให้ชัดเจน

2) แปลนบ้าน ของผมมีอยู่ แต่ขี้เกียจพก พร้อมทั้งคงไม่ได้ไปขุดคุ้ยดูท่อน้ำท่อไฟภายในแน่ๆ จึงไม่ได้ใช้ครับ แต่ถ้าจะดูละเอียดก็เอาไปด้วยครับ

3) สำหรับอุปกรณ์ทำเครื่องหมาย ก๋เพื่อใช้มาร์คตำแหน่งที่มีปัญหา ผมใช้เทปพันสายไฟสีดำ เพราะว่ามีอยู่แล้ว แนะนำว่าควรใช้เทปสีเข้มๆชัดๆ ถ้าใช้สีอ่อนจักดูยาก ถ้ามีเทปกาวที่ฉีกด้วยมือได้ก็จักยิ่งสะดวก

4) อุปกรณ์ตัด ผมใช้กรรไกร

5) สำหรับไฟฉาย ให้แนะนำว่าควรใช้ไฟสว่างๆ แต่ไม่หนักมากนะครับ ก็เพราะว่าจะได้ใช้ส่องในซอกแคบๆมืดๆ เช่น ใต้อ่างล้างมือ ใต้หลังคา

6) ถึงถังน้ำ ใช้สำหรับตักน้ำเทราด เพื่อจะเช็คการระบายน้ำ เนื่องด้วยผม เอาไปแต่ไม่ได้ใช้ ก็เพราะว่ามีก๊อกระดับต่ำ และฝักบัวฉีดก้น จึงใช้ฉีดราดได้เลย

7) เศษผ้า ที่จะใช้เพื่ออุดสะดืออ่าง แต่ว่าของผมมีจุกยางอุดทุกอ่าง เลยไม่ต้องใช้

8) ไม้ตรงๆยาวๆ ใช้เพื่อเช็คระนาบความเรียบ แต่ผมหาได้แค่ไม้บรรทัดนักเรียน 1 ฟุต เอาเข้ายิ่งก็ไม่ได้ใช้ อาศัยแค่ว่าเดินแล้วไม่พบลักษณะเป็นแอ่ง ไม่ก็ เนิน ชัดๆ ก็พอ ส่วนกำแพง ถ้าเอียงจนมองเห็นด้วยตาแล้ว ก็คงต้องแก้ไขแล้วล่ะครับ

9) สำหรับลูกแก้ว ใช้เช็คความลาดเอียงนั้น   ผมได้เตรียมเป็นถุงเลย แต่ไม่ได้ใช้ เพราะใช้หลักตามข้อ 8 ถ้าเป็นความลาดเอียงที่ราดน้ำได้ ก็ใช้น้ำราดเอา

10) ขนมปัง ใช้แทนอุนจิ เพื่อเช็คการชักโครก (แต่ถ้าใครปวดอึอยู่ อาจใช้ของครันชิงชัยแทนก็ได้นะครับ) ผมวิ่งเข้าเซเว่นเช้าวันนั้นแหละครับ เพราะฉีกเอาเปลือเลื่องกนอกออก ใช้ครันแค่ 2 แผ่นต่อส้วม 1 แห่ง ที่เหเลื่องลือก็กินแก้หิวระหว่างตรวจ

11) กล้องดิจิตัล ส่วนอันนี้สำคัญครับ เพราะว่าใช้ถ่ายจุดที่มีปัญหาไว้เป็นหลักฐาน ด้วยกันใช้ทบทวนความจำร่วมกับข้อมูลที่จดไว้ด้วยครับ ถ้าเป็นไปได้ ควรเเล่าลือกกล้องที่ซูมได้มากๆหน่อย เพราะจะได้ส่องดูบริเวณที่อยู่สูงๆ แต่อย่าเอากล้องเทพๆไปเลยครับ จะสร้างความปวดขณะยเปล่าๆ ของผมใช้ fuji hs 20 (ซูมได้ 30x)

12) สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ผมใช้เป็นสายชาร์จโทรศัพท์ ครับ เบาดี

13) ส่วนโทรศัพท์ ผมนั้นไม่ได้เช็ค เพราะว่ามันหาอุปกรณ์ยากครับ ไว้ถ้าจะติดแล้วค่อยตรวจละกัน หุหุ

14) ซึ่งไขควงเช็คไฟ ผมก็ใช้แค่อันนี้แหละตรวจระบบไฟ และด้วยหลักการว่า รูปลั๊ก 3 รู ควรมีไฟเข้าแค่รูเดียว อีก 2 รู เป็นสาย Neutral กับ สาย Ground ซึ่งไม่ควรมีไฟเข้า ถ้ามีไฟเข้า ก็ผิดปกติ ถ้าหาไขควงแบบที่เปลี่ยนสลับหัวได้ก็ยิ่งดีครับ จะได้ใช้ขันน็อตได้ด้วยเลย


ที่สำคัญ ควรมีผู้ช่วยไปช่วยตรวจด้วย ก็เพราะว่าทั้งตรวจ ทั้งจด ทั้งถ่ายรูป ไม่ไหวหรอกครับ ผมหนีบแฟนไปด้วย เพราะว่าผมเป็นคนตรวจ แฟนเป็นคนจดข้อมูล ถ่ายรูป พร้อมทั้ง ป้อนขนมปัง










เวลาผมตรวจ ผมจักตรวจตามแบบในหนังสือ คือ แบ่งตรวจพื้นที่ของบ้าน ไล่ตั้งแต่ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำ บันได แล้วปีนขึ้นข้างบน ไปตรวจห้องนอน แต่ละห้อง พร้อมกับห้องน้ำชั้นบน เพราะแต่ละพื้นที่ จักตรวจทุกระบบไปเลย ทั้งพื้น ผนัง ผ้า เพดาน ระบบไฟ ระบบน้ำ

แต่ถ้าเกิดเจออะไรเตะตา แม้จักไม่ได้เรียงลำดับก็ตาม ก็ไม่เป็นไรครับ ถ่ายรูป เก็บข้อมูลไปเลยครับ

อย่างเช่น เต้ารับที่โรงจอดรถ ไม่มีฝาครอบ ผมเดินเข้ามาเห็นก่อน ผมก็ถ่ายเก็บไว้เลย ไม่รอครับ





หรือว่า ฝาประตูถังขยะ มีปัญหาแบบที่เห็นนี่ ผมก็ไม่รอครับ มันเตะลูกกะตาขนาดนี้












จักเสียเวลาก็ตรงตรวจพื้นนี่ล่ะครับ เพราะต้องนั่งเคาะกระเบื้องทุกแผ่นเลย ของผมเป็นแกรนิโต้ นั่งไล่เคาะทุกแผ่น ก็พบว่ามีเสียงเคาะโปร่งอยู่ท่วมท้นครับ ถ้าแค่มีเสียงโปร่งก็นับ ก็จะมีอยู่คาดว่า 50 กว่าแผ่นได้ครับ แต่คุยกับทางโครงการแล้ว ทางวิศวะบ่งว่าถ้าไม่เกิน 1/3 ของแผ่น ก็ไม่จำเป็นต้องแก้ไขทั้งแผ่น ทำแค่เซาะยาแนวออก แล้วเทปูนซ่อมเป็นแห่งๆได้ครับ ซึ่งทางโครงการรับปากจักใช้เครื่องมือตรวจสอบให้

ตอนที่ผมตรวจ ผมจะต้องทำแผนผังเพื่อให้ช่างรู้ว่าต้องตรวจตรงแผ่นไว้ไหนบ้าง












ซึ่งที่ต้องระวัง คือ ซอกมุมที่อาจมองไม่เห็น ถ้าหากไม่ชะโงก หรือไม่ ส่องกระจกดู

แชะในรูปเนี่ย คือตำแหน่งที่ช่างยาแนวก็ไม่เรียบร้อย ในห้องน้ำ ดูผิวเผินน่าจะมองเห็นได้ง่าย แต่ขอย้ำว่า รูปนี้ถ่ายได้นี้เป็นภาพสะท้อนกระจกนะครับ ซึ่งผมเชื่อว่า คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ชะโงกดูแน่ๆ












บางจุดที่ถ้าไม่ได้ตั้งใจมอง อาจจักหลุดสายตาไปได้ครับ ก็เพราะว่ามันมีวัสดุบังอยู่









ตรงระเบียงชั้นบน ระวังอย่าลืมเช็คความลาดเอียง กับปัญหาท่ออุดตัน ด้วยครับ แต่บังเอิญของผมมันเห็นชัดเจน ทั้งนี้เพราะฝนตกสะสม กับท่อมันอุดตัน น้ำเลยค้างเห็นชัดเจน พอให้ช่างแก้ปัญหาท่ออุดตัน (จากเศษสกปรก) ก็แห้งสบายครับ












ห้องใต้บันได เป็นอีกจุดนึงที่หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยหวังมุดเข้าไปสอดส่อง แต่นี่คือปัญหาที่พบครับ












อ้อ.....ผมลืมทำนูลไปครับ เวลาถ่ายรูปจุดที่มีปัญหา ควรจดชื่อไฟล์รูปไว้ด้วยครับ เพราะบางจุดอาจถ่ายรูปไว้หลายรูป เวลากลับมาย้อนดูจักได้ไม่งงครับ ผมจักเรียบเรียงพิมพ์ใส่ไว้ใน excel แล้วปริ๊นต์ออกมาให้ทางโครงการเลย




ควรจะบรรยายตำแหน่งให้ละเอียดนะครับ และจะได้สื่อสารได้ดี










ประตู หน้าต่าง ถ้าเป็นบานเลื่อน ควรเลื่อนเข้าสุดออกสุดหลายๆครั้งนะครับ เพื่อเช็คว่ามีฝืดติดขัดหรือว่าไม่ ของผมก็มีจุดติดขัดเนื่องมาจากขอบรางมันมีจุดที่ตีบแคบ พอแก้ไข ก็เลื่อนได้ลื่นปรื๊ด









อย่าเอาแต่เดินนะครับ ลองนั่งยองๆ เหรอ คุกเข่าคลานดูบ้าง จักได้เห็นปัญหาที่หลบซ่อนอยู่









รอยร้าวตามจุดต่างๆ มองๆไว้ด้วยนะครับ









ถ้าบ้านไหนมีการวางถังเก็บน้ำใต้ดิน เหโจษจันแต่ฝาเห็นภายนอก ก็ควรต้องตรวจนะครับ ปัญหาของผมคือ เขี้ยวของฝามันเสียครับ ล็อคไม่ได้









บริเวณกำแพงรั้ว ก็มองดีๆนะครับ เพราะว่าอาจเจอแบบผม









รอยร้าวได้ตรงผนังด้านนอก ถ้าหากมองเห็นก็แจ้งช่างไว้ด้วยครับ ถ้ามีกล้องที่ซูมได้เป็นกอง ก็จักได้ประโยชน์ล่ะครับ









วกกลับมาในบ้านนะครับ

บันได ที่เป็นจุดจะควรสังเกตด้วยนะครับ ไว้ลูกตั้งลูกนอน วางได้เหมาะสมดีใช่ไหมไม่ ถ้าวางพื้นไม้บนพื้นปูนแบบนี้ ก็ตรวจสอบด้วยว่าแนบสนิทดีมั้ย ที่สำคัญ ราวบันได้ แข็งแรงดีมั้ย โยกเยกรึเปล่า ควรต้องลองโยกราวดูบ้างครับ ของผมมีจุดยึดเสาราวบันไดที่ไม่แน่น









ด้วยระบบไฟฟ้า ถ้าเป็นเราๆที่ไม่ได้รู้เรื่องไฟฟ้ามากนัก ก็คงตรวจได้ไม่กี่เรื่องหรอกครับ

1. สวิทช์ กดเปิดปิดได้ลื่นดี ไม่ติดขัด กดเปิดแล้วไฟเปิด กดปิดไฟปิด เวลาเปิดไฟ ไฟติดได้ดีไม่ช้า ถ้าเป็นไฟสองทาง ก็ต้องเช็คทั้งสองทางนะครับ

2. เต้ารับ มีฝาครอบเรียบร้อย ใช้ไขควงเช็คไฟตรวจทุกรู เพื่อดูว่ามีการต่อไฟไม่เหมาะสมใช่ไหมไม่

3. เบรคเกอร์ ปิดแล้วไฟดับครัน ด้วยกันถ้าติดมิเตอร์แล้ว ให้ลองปิดเบรคเกอร์ทั้งหมด แล้วดูมิเตอร์ว่ายังหมุนมั้ย ถ้าหมุน ก็แสดงว่ามีไฟรั่ว














ห้องน้ำ พร้อมกับระบบน้ำ สิ่งที่เราพอจะตรวจได้ก็คือ

1. คราวเปิดก๊อกน้ำแต่ละจุด เช็คตามรอยต่อต่างๆว่ามีน้ำรั่วมั้ย ก๊อกหมุนไปมาได้ดีไม่ใช่หรือไม่ ตัวก๊อกยึดติดดีหรือไม่ก็ไม่

2. ฝักบัวทั้งที่ใช้อาบ ด้วยกันใช้ฉีดก้น ไหลได้ดีหรือไม่ไม่

3. ระบบชักโครก กดแล้วน้ำไหลได้ดี ดันขนมปังลงได้เรียบร้อย ระบบลูกลอยไม่ติดค้าง ควรกดซ้ำๆหลายๆครั้ง เพื่อเช็คว่าไม่ติดขัด

4. ท่อระบายในห้องน้ำระบายได้ดี ไม่ติดขัด รวมถึงความลาดเอียงเหมาะสม น้ำไหลลงท่อได้ไม่ยาก ของผมมันไม่ดีตั้งแต่การออกแบบแล้วครับ เพราะว่าดันเอาท่อระบายมาไว้ตรงกลางโซนอาบน้ำ ทำให้การปูกระเบื้องให้ลาดลงท่อทุกทิศทางทำได้ยาก แก้ไขแล้วก็ไม่ดีขึ้น ก็เลยต้องกวาดน้ำด้วยตัวเองหลังอาบน้ำ ซึ่งพอแห้งก็แห้งดี ก็โอเค

5. ส่วนพื้นโรงรถ ก็ใช้น้ำเทราด หรือไม่ฉีดน้ำราดดูทิศทางการไหลของน้ำว่าเทออกไปทางประตูหน้าบ้านใหม่พร้อมอยู่ดีไม่ก็ไม่





เพิ่มเติมอีกนิดนึง
ระวังสำหรับพวกอุปกรณ์ที่ต้องยึดติดกับผนัง ก็เช่น ที่วางสบู่ ที่แขวนกระดาษทิชชู่ ลองโยกดูด้วยว่าติดได้ดีมั้ย ก็เพราะว่าของผมเค้าแค่แขวนกับกำแพง แต่ไม่ได้ยาแนวยึดติดให้ดี ทำให้ขยับแล้วโยกเยก









สุดท้ายก็ตรงฝ้าหลังคา

ผมเองก็ใคร่ปีนขึ้นไป แต่หาบันไดไม่ได้ ก็เลยไม่ได้ตรวจ ทั้งนี้ ผมอาศัยว่า ช่วงนั้นฝนตกหนักๆต่อเนื่องกันบ่อยครั้งครับ ผมก็ไล่ดูตามฝ้าเพดานว่ามีรอยน้ำรั่วบ้างมั้ย ก็ไม่มี ซึ่งถ้ามีรั่วจริงๆ ฝนตกหนักๆอย่างนั้นน่าจักไม่รอด ผมก็เลยเหมาว่าคงไม่รั่วมั้ง แต่ถ้าใครทำได้ตรวจได้ ก็ปีนขึ้นไปส่องๆดูสักหน่อยก็ได้ครับ อย่างน้อย ถ้าไม่เห็นแสงลอดทะลุทะลวงหลังคามาให้เราเห็นได้ ก็น่าจะคาดได้ว่าไม่รั่ว เข้าทางช่องเซอร์วิสครับ อยู่ชั้นบนสุด




สุดท้ายนี้ก็ขอให้ท่านที่จักตัดสินใจตรวจรับบ้านเอง มีความมั่นใจ และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปตรวจนะครับ



ที่มาจากคุณ ระเบิดเด่น   จากเว็บpantip 






แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

Ad Code

Responsive Advertisement